Season
5th October 2011, 17:52
LETTER CODE : RE - JOURNAL
JOURNAL PAGE 1 : Mail that is not open - จดหมายที่ไม่ได้เปิดออก
..............ชายคนหนึ่งกำลังวิ่งด้วยความเร็วสุดฝีเท้าของเขาไปตามซอกซอยเล็กในเมืองร้างๆในเวลากลางคืนแห่งหนึ่ง
ฝนที่กำลังตกลงมาทำให้ฝีเท้าเขาดังขึ้นกว่าปกติเขาใส่เสื้อคลุมทั้งตัวและหมวกคลุมหัวจึงมองไม่เห็นหน้าตา แต่ห่างไป
ไม่กี่ก้าวข้างลงของชายคนแรกยังมีกลุ่มคน สาม คน วิ่งตามาติดๆแต่ละคนถือมีดวิ่งไล่ตามมาติดๆ ชายคนแรกพยายามวิ่ง
ด้วยสุดฝีเท้า แต่ไม่ว่าจะวิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ไม่พ้นจากพวกข้างหลังสักที ต่อมาอีกไม่กี่อึดใจสายตาของชายที่กำลังวิ่งหนีเรื่อง
มีความหวัง เพราะสิ่งที่เขาเห็นอยู่ข้างหน้านั้นเป็นประตูสีเทาใหญ่ๆตรงสุดทางเดิน เขารีบเร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าเดิมแต่ไม่ได้
หวังว่าจะให้พวกนั้นตามไม่ทันเลย ทั้งสามคนข้างหลังยังคงวิ่งตามต่อไปอย่าง ขะมักเขม้น ทันทีที่ชายคนแรกวิ่งถึงเขาก็
หยุดอยู่ที่หน้าประตูทันที ทำเอาทั้งสามคนที่วิ่งตามมาข้างหลังตกใจจนต้องหยุดยืน ชายคนแรกค่อยๆหันหน้ามาอย่าง
ช้าๆเขาค่อยๆเอามือล่วงไปในกระเสื้อของเขาราวกับจะหยิบปืนขึ้นมายิงแต่มันไม่ใช่ สิ่งที่เขาหยิบออกมามันกลับเป็นสิ่งที่
ชวนให้สงสัยว่าหยิบมาทำไม มันเป็นสิ่งกลมๆสีแดงเท้ามือของเขานั่นไม่ใช่อะไรมันคือ แอปเปิ้ล เขาค่อยกัดมันอย่าง
ช้าๆทันทีที่เขากัดเสร็จ ฝนที่ละรอก สุดท้ายก็หยุดทันที ทั้งสามคนที่วิ่งตามมา ไม่รอช้าทันทีที่หายแปลกใจ ทั้งสามวิ่งถือ
มืดที่เพื่อจะไปแทง ชายคนนั้นทันที แต่เมื่อเขากลืน แอปเปิ้ล เสร็จ เขาพูดสั้นว่า ลาก่อน
ประตูที่อยู่ด้านหลังเขาเปิดออกทันทีข้างในเป็นเหมือนห้องมืดๆที่เต็มไปด้วยสมุดมากมายและมีเศษกระดาษ
กองอยู่บนพื้นเต็มไปหมด ชายคนที่ถือแอปเปิ้ลค่อยเลือนหายไป และประตูก็ค่อยๆปิดลง ทั้งสามคนที่ถือ
ทันทีที่กะพิบตาเขาก็ไม่เห็น ชายคนนั้นอีกแล้ว ชายคนที่ตัวใหญ่สุดเหมือนจะสั่งให้พยายามเปิดประตูแต่เมื่อเปิดออกมา
มันกลับไม่มีอะไรเลย เปิดตรอกซอยที่ยาวต่อไปจนสุดทางเดินของเมืองๆนี้ ทั้งสามคนทำหน้าผิดหวังและอารมณ์เสียสุดๆ
พร้อมกับฝนที่ตกลงมาอีกครั้ง
ในห้องมืดๆเล็กๆแต่ยังคงมองเห็นแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยสมุด ยังมีชายคนหนึ่งเดินหาปากกาอยู่ในห้องนั้นนั่น
ไม่ใช่ใครเขาคือ ชายที่เพิ่งหนี มาจากการถูกฆ่า เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว เขาเดินไปเรื่องในห้องที่มีสมุดบันทึก หนังสือ กระดาษ
เต็มไปหมด ดูเหมือนว่าเขา จะเจอแล้ว เขาเห็นกล่องเล็กๆที่ตั้งอยู่บนโต๊ะตรงมุมห้องเขาเดินไปด้วยความหวังที่ต้องการ
ปากกาอย่างสูง
เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวไม้สีน้ำตาลที่สอดอยู่ในตะเขาค่อยนั่งและหยิบกล่องไม้นั้นมา ทันทีที่เขาเปิดออก สายตาของเขาดู
ห่อเหี่ยวอย่างมากเพราะข้างในนั้นมีแต่หมึกปากกาที่แห้งสนิทแล้วเลอะเต็มไปหมดแต่อีกไม่กี่อึดใจเท้าของเขาก็เหมือนไป
แตะอะไรบางอย่าง สิ่งนั้นคือสิ่งที่เขาหา ปากกานั่นเอง เขารีบหยิบออกขึ้นมาทันทีเขาใช้มือซ้ายหยิบ จดหมาย ซองหนึ่ง
ขึ้นมาและโน้มตัวด้วยมือเอามือขวาไปหยิบปากกา เขารับเขียนข้อความหนึ่งลงไปในจดหมายทันที เขาพึมพำ พร้อมกับ
เขียนประโยคนั้นที่พูดลงไป ทันทีที่เขาเขียนเสร็จเขารีบพับจดหมายและมุ่งตรงไปอีกด้านมุนหนึ่งของห้องมันมีแจกันเล็กๆสี
ม่วงอ่อนใหม่เอี่ยมตั้งอยู่
เขาค่อยเอาจดหมายหย่อยลงไปแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต็ะเขาค่อยนั้งลงและมองไปรอบๆห้องอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะฟุบหลับ
ลงไปท่ามกลางหนังสือ สมุด และเศษกระดาษมากมาย
ณ บ้านเก่าโทรมเล็กๆหลังหนึ่งตั้งอยู่กลางทุ้งกว้างสีเขียวขจี ที่ตัดกับสีท้องฟ้าอันงดงาม มันเป็นบ้านหลังเล็กๆ
ซึ่งเหมือนขาดการดูแลจากผู้เป็นเจ้าของ ประตู หน้าต่าง หลังคา พังเสียหายไปหมดแต่ยังคงมีฝูงนกตัวเล็กๆสีน้ำตาล ราว
ห้าหกตัวบินมาหยุด ณ จุดนี้ และยืนมองหน้าประตูทุกวันตอนเวลาใกล้จะมืดและค่อยบินจากไป และวันนี้ กลุ่มนกกลุ่ม
นั้นก็ยังคงมาอีกและยืนจ้องนิ่งอยู่ที่หน้าประตู มันเฝ้าคอยเหมือนต้องการอะไรบางอย่างจากบ้านหลังนี้แต่ทั้งๆที่บ้านหลัง
นี้ไม่มีแม้แต่อาหารหรือแมลง หรือ ผลไม้ ให้พวกมันกินเลย ตอนนี้เวลาใกล้จะมืดแล้วนกกลุ่มนั้นก็ถึงเวลาที่ใกล้จะกลับไป
แล้วเช่นกัน ตอนนี้นกทั้งหมดกำลังจะบินออกไปในอีกไม่กี่วินาที เพราะใกล้จะมืดแล้ว
แพร้ง เสียงแก้วแตกจากในบ้านที่ไม่น่าจะมีคนอยู่ดังขึ้น นกทั้งหมดแทนที่จะบินจากไปในเวลานี้แล้วกลับหยุดบินและ
หันกลับมาจ้องที่ประตูบ้านเช่นเดิม และมันค่อยๆร้องออกมาแต่เหมือนจะไม่มีเสียง มันยังคงทำอย่างงั้นต่อไปทั้งๆที่ฟ้ามืด
สนิทแล้ว
ในห้องครัวแคบๆภายในบ้านหลังเก่านั้น ที่ไม่น่าจะมีคนอยู่ กลับมี ชายสองคนยืนอยู่และเถียงกันไปมาชายคน
แรกที่ยืนอยู่ใกล้กาต้มน้ำยืนถือเศษแก้วอยู่ชื่อของเขาคือเปปเปอร์(พริก) เขาเป็นชายผมบลอนใส่เสื้อคอปกสีเทากางเกงยืน
ดำเขาตัวยาวสูงนิดหน่อยแต่ความสูงของเขาเกือบเท่าฝาบ้านแล้วเพียงแต่บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังเล็กเท่านั้น คนที่ยืน
อยู่ใกล้กันห่างกันไม่กี่ก้าว ชื่อพอท เขาตัวสูงเกือบเท่า เปปเปอร์ เขาใส่กางเกงขาสามส่วนสีเนื้อออกน้ำตาล ผมสีดำ
สนิทและสีของเสื้อก็ดำด้วย เขาทั้งสองดูท่าว่าจะยืนเถียงกันเรื่องที่เปปทำแก้วกาแฟแตก แต่อารมณ์ของทั้งคู่ชุนเชียว
อย่างมากราวกับว่ามันเป็นแก้วกาแฟที่สำคัญนักหนา
นอกห้องครัวมีบันได้โทรมๆขึ้นไปชั้นสองของบ้าน ทางซ้ายเป็นประตูออกไปและข้างหน้าเป็นหน้าต่างเก่าๆที่ไม่
สามารถปิดมันได้ ภายในห้องกลางตรงนั้นเต็มไปด้วยใยแมงมุมมากมายแต่หากกวาดตามองแล้วแถบจะไม่เห็นแมงมุม
เลย ใกล้หน้าต่างมีแจกัน ใบใหญ่สูงเท่าหน้าต่างสีม่วงอ่อนที่ใกล้จะแตกตั้งอยู่
ตึกๆๆๆๆๆๆ เสียงฝีเท้าของใครสักคนกำลังลงมาจากชั้นสอง แต่ตอนนี้เปปและพอท ยังเถียงกันไม่หยุด
เฮ้ เปป ฉันบอกนายแล้วว่าแก้วใบนี้มันสำคัญมากแค่ไหน พอทพูดด้วยน้ำเสียงเชื่องช้าและไล่ไปเร็ว นายรู้รึปล่าวหาก
พวก องค์กร BIRD ได้ยินขึ้นมาเขาก็รู้กันหมดพอดีว่า ผู้ต่อต้านองค์กร ที่เหลืออยู่ แอบซ่อนตัวอยู่ในนี้หน่ะ
แล้วที่นายเปิดไฟตอนกลางคืนเวลาที่เดินลงมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนหล่ะ เปป เริ่มพูดเสียงดังใส่พอทที่ยืนทำหน้าบูด
เบียวโมโหอยู่ นายคิดว่าพวกมันจะไม่รู้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วหรอ เขาพูดเสียงดังจนจบ ขณะที่คนที่เดินลงมาจากชั้นสองถึง
แล้ว คนที่เดินลงมาเป็นเด็กผู้หญิงชื่อ เพอร์ ไม่สูงมากนักแต่ไม่ถึงกลับเตี้ยผมสีน้ำตาลเข้มยาวสลวย ใส่ชุดกระโปรงวันพีช
สีส้มอมน้ำตาล
นี่ เธอตะโกนใส่ เปป และ พอท อย่างสุดเสียงจนทั้งสองสะด้งตกใจและหันมาหาเธอ เลิกเถียงกันได้แล้ว
นี่เธอรู้หรือป่าว พอทเดินตรงมาหาเธอและดูเหหมือนจะหายโกรธ เปป เสียแล้ว ที่เธอตะโกนไปเมื่อกี้นี้มัน
หยุด เพอร์พูดแทรก องกรค์ BIRD รู้นานแล้วหล่ะว่าพวกเราที่เหลืออยู่ที่นี้แต่มีบางอย่างทำให้
พวกมันไม่กล้าเข้ามา ชายคนหนึ่งพูดแทรกเพอร์ และเดินลงมาจากชั้นสอง อย่างช้าๆ เขาใส่แว่นตาสีดำผมสีดำชุดสีดำ
กางเกงสีดำและรองเท้าสีดำ เขาชื่อ ฮอค หรือบางสิ่งที่มันไม่สามารถหยิบออกไปได้ เขาพูดด้วยถ้อยคำนิ่งๆไม่หวั่นไหว
ทั้งหมดทุกคนมองไปที่เขาแต่สายตาของ เปป ยัง งุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นและความสำคัญของการหลับซ่อน
เด๋วๆๆๆๆ เขาเดินตรงมาและหยุดอยู่กลางห้องโถงเล็กๆที่เบียดเสียด ช่วยเล่าให้ละเอียดหน่อย เขาพูดพร้อมกับมอง
ไปหาทุกๆคน ฉันยัง งง กับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขาพูดด้วยสายตาที่เหมือนอยากรู้แต่ไม่มากนัก
โอเคฮอคพูด ฉันจะเล่าเรืองที่ฉันพอรู้ก็แล้วกัน
จุดเริ่มต้นคือจดหมายที่ถูกจัดส่งไปให้คนทั้งสิบสามคนที่ได้รับแต่มีเพียงจดหมายหนึ่งฉบับที่หลุดไปถึงผู้ที่ไม่
เกี่ยวข้อง จากผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกลับเข้ามาพัวพันและถูกตามล่าเนื่องจากเห็นบางสิ่งจากจดหมายที่ได้รับแล้ว แต่เขาไม่ได้
หนีไปคนเดียวแต่มีเด็กผู้หญิงผมสีชมพูและชายที่ขับรถตัวโต ทั้งหมดในอดีตถูกแบ่งออกเป็น สององค์กร และอีกหนึ่ง
กลุ่ม ได้แก่ BIRD(นก) BUNGA(ผลไม้) และ BUG(แมลง)(ผู้ที่ได้รับจดหมายทั้งสิบสามฉบับ) BIRD พยายามหาคนหรือ
เด็กที่มี พรสวรรค์ต่างๆเช่น นกร้อง นกคณิตศาสตร์ นักแฮคเกอร์ เป็นต้นนั้นคือ BUG และเมื่อใช้ผลประโยชน์อะไรซัก
อย่างเสร็จแล้วจะกำจัดทิ้ง BUNGA คือฝ่ายต่อต้านที่จะมาช่วย BUG จากการติดตามของ BIRD แต่ใช่ว่าจะทำสำเร็จ
ต่อมาอีกไม่นาน มีองค์กรใหม่ที่ชื่อว่า GHOST กำเนิดขึ้นเป็นฝ่ายที่ไม่เข้าและไม่ออกฝ่ายไหน เพียงแต่ที่เข้ามาเกี่ยวเพราะ
BUG บางคนที่เป็นนัก แฮคเกอร์ เข้าไปยุ้งบางอย่างจึงทำให้ GHOST เข้ามาพัวพันด้วย ผลสรุปของทุกอย่างจบลงด้วย
BIRD เป็นผู้ชนะเหล่า BUNGA ที่กระจายอยู่ทั่วโลกค่อยๆถูก BIRD กำจัดไปหมดจนเหลือนับคนได้ ส่วนองกรค์ GHOST
เมื่อกำจัดผู้ แฮคเกอร์ผู้นั้นได้แล้วก็หายสาบสูญไปในเงาเหมือนกับนามของเขาและไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวอีกเลย ส่วนชายที่ไป
เห็นบางสิ่งบางอย่างขององกรค์ที่กล่าวในขั้นต้นนั้นเขาลือกันว่าตายไปแล้ว ส่วนเด็กผู้หญิงและชายตัวใหญ่ไม่มีข่าวอีก
เลยทิ้งไว้เพียงรถสีดำและผู้หญิงใส่เสื้อร้านอาหาร ที่จำไม่ได้ว่าตัวเองมานอนอะไรอยู่ในรถคนนี้
ในห้องเล็กๆในบ้านเก่าๆทั้งหมดยกเว้น ฮอคและพอท ยืนอึ้งและมองมาที่เขาคนเดียว บางคนที่ไม่รู้เรื่องอะไร
เกือบรู้หมดและส่วนคนที่บอกว่ารู้ก็อึ้งไม่ต่างกัน
รู้ดีเชียวนะ พอทพูดท่าทางอารมณ์ไม่ดีเพราะไม่ถูกกับ ฮอค อยุ่แล้ว แน่หล่ะก็นาย
อดีตสมาชิค นักวางแผนของ BIRD ฮอคพูด ฉันรู้ดีแต่ฉันพร้อมเสมอว่าฉันไม่ใช่สายของ BIRD หากได้มีโอกาสที่จะให้
ฉัน พิสูจน์ความจริง เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
แล้วฉันจะรอดู พอทพูดอย่างใส่อารมณ์รุนแรงและไม่พอใจ
โอเค เปปพูดแทรก ฉันพอเข้าใจความสำคัญของการที่ฉันทำแก้วนั้นแตกแล้ว
ขอบคุณที่เข้าใจ พอทพูดและดูเหมือนอารมร์จะเย็นลงแล้ว บรรยากาศตอนนี้ค่ำแล้วแต่ทุกคนยังยืนคุยกันอยู่
ฉะนั้นสิ่งที่พวกมันตามหาฉันพอจะเดาได้แล้วว่ามันคืออะไร เพอร์พูดและยิ้ม พร้อมกับหยิบจดหมายฉบับหนึ่งขึ้นมา
มันเป็นจดหมายที่ยังใหม่เอี่ยมอยู่ ทุกคนเดินเข้ามาล้อมวงกัน
แล้วทำไมเธอไม่บอกเราหล่ะ เปปพูดด้วยอารมณ์รื่นเริงและตื่นเต้นเล็กน้อย
เพราะว่าวันนี้เป็นวันเดียวกับที่ชายคนที่ได้รับจดหมายฉบับที่สิบสี่เข้ามายุ้งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นๆยังไงหล่ะ เพอร์พูดชวนให้
ตื่นเต้น เราทุกคนที่มาที่นี่ยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้เสียเท่าไหร่เพียงแต่ได้รับรู้เรื่องราวบางอย่างยกเว้นฮอค
เธอพูดพร้อมกับมองและกวาดสายตาไปหาทุกๆคน ใครที่ได้อ่านจดหมายฉบับนี้แล้วจะเข้ามายุ่งเกี่ยวอย่างเต็มที่และ
ถอนตัวออกไปไม่ได้จนกว่าเรื่องทุกอย่างจะจบ เธอพูดพร้อมกับยิ้มด้วยความตื่นเต้น ใครพร้อมที่จะเข้ามาเกี่ยวกับสิ่งนี้
ให้เอามือมาจับที่จดหมาย เพอร์พูดจบแต่ไม่ถึงเสี้ยววินาที ทุกคนรวมทั้ง ฮอค ต่างก็เอามือยืนมาจับกันอย่างเบียดเสียด
สิ่งที่เป็นเพียงแค่จดหมาย กลับเหมือนมีแรงดึงดูดจากหลายๆคน ทั้งที่คนที่ไม่เกี่ยวรู้ว่าเมืออ่านจะเกิอะไรขึ้น จดหมายสี
ขาวนั้นไม่ได้เขียนหรือมาจากใคร เขาคนนั้นคือคนที่ คิดว่าถูก GHOST กำจัดไปแล้วนัก แฮคเกอร์ผู้รู้ความลับบองอย่าง
ขององกรค์ GHOST เขาผู้นั้นมีโค้ดเนมว่า
APPLE
จากผู้เขียนถึงผู้อ่าน
ขอบคุณมากนะครับถ้ามีใครอ่านจนจบ ทั้งคนที่เคยอ่านและไม่เคยอ่านผมจะพยายามเขียนให้เข้าใจทั้งสองฝ่ายครับ เพราะว่าไม่รู้จะเขียนได้ดีหรือปล่าวแต่ก็เต็มที่ครับ ตอนแรกผมก็นอนๆนึกอยู่ว่าช่วงนี้ไม่รู้จะทำอะไรเลยรื้อเรื่องเก่าๆเอามาเขียนใหม่ดีกว่า
อีกอย่างนึงผมไม่ค่อยอยากทิ้งเรื่องนี้ให้จบแบบไม่รู้เรื่องเสียด้วยครับ ยังไงก็ขอฝากไว้หน่อยสักเรื่องนะครับ ขอบคุณครับ[/CENTER]
JOURNAL PAGE 1 : Mail that is not open - จดหมายที่ไม่ได้เปิดออก
..............ชายคนหนึ่งกำลังวิ่งด้วยความเร็วสุดฝีเท้าของเขาไปตามซอกซอยเล็กในเมืองร้างๆในเวลากลางคืนแห่งหนึ่ง
ฝนที่กำลังตกลงมาทำให้ฝีเท้าเขาดังขึ้นกว่าปกติเขาใส่เสื้อคลุมทั้งตัวและหมวกคลุมหัวจึงมองไม่เห็นหน้าตา แต่ห่างไป
ไม่กี่ก้าวข้างลงของชายคนแรกยังมีกลุ่มคน สาม คน วิ่งตามาติดๆแต่ละคนถือมีดวิ่งไล่ตามมาติดๆ ชายคนแรกพยายามวิ่ง
ด้วยสุดฝีเท้า แต่ไม่ว่าจะวิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ไม่พ้นจากพวกข้างหลังสักที ต่อมาอีกไม่กี่อึดใจสายตาของชายที่กำลังวิ่งหนีเรื่อง
มีความหวัง เพราะสิ่งที่เขาเห็นอยู่ข้างหน้านั้นเป็นประตูสีเทาใหญ่ๆตรงสุดทางเดิน เขารีบเร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าเดิมแต่ไม่ได้
หวังว่าจะให้พวกนั้นตามไม่ทันเลย ทั้งสามคนข้างหลังยังคงวิ่งตามต่อไปอย่าง ขะมักเขม้น ทันทีที่ชายคนแรกวิ่งถึงเขาก็
หยุดอยู่ที่หน้าประตูทันที ทำเอาทั้งสามคนที่วิ่งตามมาข้างหลังตกใจจนต้องหยุดยืน ชายคนแรกค่อยๆหันหน้ามาอย่าง
ช้าๆเขาค่อยๆเอามือล่วงไปในกระเสื้อของเขาราวกับจะหยิบปืนขึ้นมายิงแต่มันไม่ใช่ สิ่งที่เขาหยิบออกมามันกลับเป็นสิ่งที่
ชวนให้สงสัยว่าหยิบมาทำไม มันเป็นสิ่งกลมๆสีแดงเท้ามือของเขานั่นไม่ใช่อะไรมันคือ แอปเปิ้ล เขาค่อยกัดมันอย่าง
ช้าๆทันทีที่เขากัดเสร็จ ฝนที่ละรอก สุดท้ายก็หยุดทันที ทั้งสามคนที่วิ่งตามมา ไม่รอช้าทันทีที่หายแปลกใจ ทั้งสามวิ่งถือ
มืดที่เพื่อจะไปแทง ชายคนนั้นทันที แต่เมื่อเขากลืน แอปเปิ้ล เสร็จ เขาพูดสั้นว่า ลาก่อน
ประตูที่อยู่ด้านหลังเขาเปิดออกทันทีข้างในเป็นเหมือนห้องมืดๆที่เต็มไปด้วยสมุดมากมายและมีเศษกระดาษ
กองอยู่บนพื้นเต็มไปหมด ชายคนที่ถือแอปเปิ้ลค่อยเลือนหายไป และประตูก็ค่อยๆปิดลง ทั้งสามคนที่ถือ
ทันทีที่กะพิบตาเขาก็ไม่เห็น ชายคนนั้นอีกแล้ว ชายคนที่ตัวใหญ่สุดเหมือนจะสั่งให้พยายามเปิดประตูแต่เมื่อเปิดออกมา
มันกลับไม่มีอะไรเลย เปิดตรอกซอยที่ยาวต่อไปจนสุดทางเดินของเมืองๆนี้ ทั้งสามคนทำหน้าผิดหวังและอารมณ์เสียสุดๆ
พร้อมกับฝนที่ตกลงมาอีกครั้ง
ในห้องมืดๆเล็กๆแต่ยังคงมองเห็นแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยสมุด ยังมีชายคนหนึ่งเดินหาปากกาอยู่ในห้องนั้นนั่น
ไม่ใช่ใครเขาคือ ชายที่เพิ่งหนี มาจากการถูกฆ่า เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว เขาเดินไปเรื่องในห้องที่มีสมุดบันทึก หนังสือ กระดาษ
เต็มไปหมด ดูเหมือนว่าเขา จะเจอแล้ว เขาเห็นกล่องเล็กๆที่ตั้งอยู่บนโต๊ะตรงมุมห้องเขาเดินไปด้วยความหวังที่ต้องการ
ปากกาอย่างสูง
เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวไม้สีน้ำตาลที่สอดอยู่ในตะเขาค่อยนั่งและหยิบกล่องไม้นั้นมา ทันทีที่เขาเปิดออก สายตาของเขาดู
ห่อเหี่ยวอย่างมากเพราะข้างในนั้นมีแต่หมึกปากกาที่แห้งสนิทแล้วเลอะเต็มไปหมดแต่อีกไม่กี่อึดใจเท้าของเขาก็เหมือนไป
แตะอะไรบางอย่าง สิ่งนั้นคือสิ่งที่เขาหา ปากกานั่นเอง เขารีบหยิบออกขึ้นมาทันทีเขาใช้มือซ้ายหยิบ จดหมาย ซองหนึ่ง
ขึ้นมาและโน้มตัวด้วยมือเอามือขวาไปหยิบปากกา เขารับเขียนข้อความหนึ่งลงไปในจดหมายทันที เขาพึมพำ พร้อมกับ
เขียนประโยคนั้นที่พูดลงไป ทันทีที่เขาเขียนเสร็จเขารีบพับจดหมายและมุ่งตรงไปอีกด้านมุนหนึ่งของห้องมันมีแจกันเล็กๆสี
ม่วงอ่อนใหม่เอี่ยมตั้งอยู่
เขาค่อยเอาจดหมายหย่อยลงไปแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต็ะเขาค่อยนั้งลงและมองไปรอบๆห้องอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะฟุบหลับ
ลงไปท่ามกลางหนังสือ สมุด และเศษกระดาษมากมาย
ณ บ้านเก่าโทรมเล็กๆหลังหนึ่งตั้งอยู่กลางทุ้งกว้างสีเขียวขจี ที่ตัดกับสีท้องฟ้าอันงดงาม มันเป็นบ้านหลังเล็กๆ
ซึ่งเหมือนขาดการดูแลจากผู้เป็นเจ้าของ ประตู หน้าต่าง หลังคา พังเสียหายไปหมดแต่ยังคงมีฝูงนกตัวเล็กๆสีน้ำตาล ราว
ห้าหกตัวบินมาหยุด ณ จุดนี้ และยืนมองหน้าประตูทุกวันตอนเวลาใกล้จะมืดและค่อยบินจากไป และวันนี้ กลุ่มนกกลุ่ม
นั้นก็ยังคงมาอีกและยืนจ้องนิ่งอยู่ที่หน้าประตู มันเฝ้าคอยเหมือนต้องการอะไรบางอย่างจากบ้านหลังนี้แต่ทั้งๆที่บ้านหลัง
นี้ไม่มีแม้แต่อาหารหรือแมลง หรือ ผลไม้ ให้พวกมันกินเลย ตอนนี้เวลาใกล้จะมืดแล้วนกกลุ่มนั้นก็ถึงเวลาที่ใกล้จะกลับไป
แล้วเช่นกัน ตอนนี้นกทั้งหมดกำลังจะบินออกไปในอีกไม่กี่วินาที เพราะใกล้จะมืดแล้ว
แพร้ง เสียงแก้วแตกจากในบ้านที่ไม่น่าจะมีคนอยู่ดังขึ้น นกทั้งหมดแทนที่จะบินจากไปในเวลานี้แล้วกลับหยุดบินและ
หันกลับมาจ้องที่ประตูบ้านเช่นเดิม และมันค่อยๆร้องออกมาแต่เหมือนจะไม่มีเสียง มันยังคงทำอย่างงั้นต่อไปทั้งๆที่ฟ้ามืด
สนิทแล้ว
ในห้องครัวแคบๆภายในบ้านหลังเก่านั้น ที่ไม่น่าจะมีคนอยู่ กลับมี ชายสองคนยืนอยู่และเถียงกันไปมาชายคน
แรกที่ยืนอยู่ใกล้กาต้มน้ำยืนถือเศษแก้วอยู่ชื่อของเขาคือเปปเปอร์(พริก) เขาเป็นชายผมบลอนใส่เสื้อคอปกสีเทากางเกงยืน
ดำเขาตัวยาวสูงนิดหน่อยแต่ความสูงของเขาเกือบเท่าฝาบ้านแล้วเพียงแต่บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังเล็กเท่านั้น คนที่ยืน
อยู่ใกล้กันห่างกันไม่กี่ก้าว ชื่อพอท เขาตัวสูงเกือบเท่า เปปเปอร์ เขาใส่กางเกงขาสามส่วนสีเนื้อออกน้ำตาล ผมสีดำ
สนิทและสีของเสื้อก็ดำด้วย เขาทั้งสองดูท่าว่าจะยืนเถียงกันเรื่องที่เปปทำแก้วกาแฟแตก แต่อารมณ์ของทั้งคู่ชุนเชียว
อย่างมากราวกับว่ามันเป็นแก้วกาแฟที่สำคัญนักหนา
นอกห้องครัวมีบันได้โทรมๆขึ้นไปชั้นสองของบ้าน ทางซ้ายเป็นประตูออกไปและข้างหน้าเป็นหน้าต่างเก่าๆที่ไม่
สามารถปิดมันได้ ภายในห้องกลางตรงนั้นเต็มไปด้วยใยแมงมุมมากมายแต่หากกวาดตามองแล้วแถบจะไม่เห็นแมงมุม
เลย ใกล้หน้าต่างมีแจกัน ใบใหญ่สูงเท่าหน้าต่างสีม่วงอ่อนที่ใกล้จะแตกตั้งอยู่
ตึกๆๆๆๆๆๆ เสียงฝีเท้าของใครสักคนกำลังลงมาจากชั้นสอง แต่ตอนนี้เปปและพอท ยังเถียงกันไม่หยุด
เฮ้ เปป ฉันบอกนายแล้วว่าแก้วใบนี้มันสำคัญมากแค่ไหน พอทพูดด้วยน้ำเสียงเชื่องช้าและไล่ไปเร็ว นายรู้รึปล่าวหาก
พวก องค์กร BIRD ได้ยินขึ้นมาเขาก็รู้กันหมดพอดีว่า ผู้ต่อต้านองค์กร ที่เหลืออยู่ แอบซ่อนตัวอยู่ในนี้หน่ะ
แล้วที่นายเปิดไฟตอนกลางคืนเวลาที่เดินลงมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนหล่ะ เปป เริ่มพูดเสียงดังใส่พอทที่ยืนทำหน้าบูด
เบียวโมโหอยู่ นายคิดว่าพวกมันจะไม่รู้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วหรอ เขาพูดเสียงดังจนจบ ขณะที่คนที่เดินลงมาจากชั้นสองถึง
แล้ว คนที่เดินลงมาเป็นเด็กผู้หญิงชื่อ เพอร์ ไม่สูงมากนักแต่ไม่ถึงกลับเตี้ยผมสีน้ำตาลเข้มยาวสลวย ใส่ชุดกระโปรงวันพีช
สีส้มอมน้ำตาล
นี่ เธอตะโกนใส่ เปป และ พอท อย่างสุดเสียงจนทั้งสองสะด้งตกใจและหันมาหาเธอ เลิกเถียงกันได้แล้ว
นี่เธอรู้หรือป่าว พอทเดินตรงมาหาเธอและดูเหหมือนจะหายโกรธ เปป เสียแล้ว ที่เธอตะโกนไปเมื่อกี้นี้มัน
หยุด เพอร์พูดแทรก องกรค์ BIRD รู้นานแล้วหล่ะว่าพวกเราที่เหลืออยู่ที่นี้แต่มีบางอย่างทำให้
พวกมันไม่กล้าเข้ามา ชายคนหนึ่งพูดแทรกเพอร์ และเดินลงมาจากชั้นสอง อย่างช้าๆ เขาใส่แว่นตาสีดำผมสีดำชุดสีดำ
กางเกงสีดำและรองเท้าสีดำ เขาชื่อ ฮอค หรือบางสิ่งที่มันไม่สามารถหยิบออกไปได้ เขาพูดด้วยถ้อยคำนิ่งๆไม่หวั่นไหว
ทั้งหมดทุกคนมองไปที่เขาแต่สายตาของ เปป ยัง งุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นและความสำคัญของการหลับซ่อน
เด๋วๆๆๆๆ เขาเดินตรงมาและหยุดอยู่กลางห้องโถงเล็กๆที่เบียดเสียด ช่วยเล่าให้ละเอียดหน่อย เขาพูดพร้อมกับมอง
ไปหาทุกๆคน ฉันยัง งง กับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขาพูดด้วยสายตาที่เหมือนอยากรู้แต่ไม่มากนัก
โอเคฮอคพูด ฉันจะเล่าเรืองที่ฉันพอรู้ก็แล้วกัน
จุดเริ่มต้นคือจดหมายที่ถูกจัดส่งไปให้คนทั้งสิบสามคนที่ได้รับแต่มีเพียงจดหมายหนึ่งฉบับที่หลุดไปถึงผู้ที่ไม่
เกี่ยวข้อง จากผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกลับเข้ามาพัวพันและถูกตามล่าเนื่องจากเห็นบางสิ่งจากจดหมายที่ได้รับแล้ว แต่เขาไม่ได้
หนีไปคนเดียวแต่มีเด็กผู้หญิงผมสีชมพูและชายที่ขับรถตัวโต ทั้งหมดในอดีตถูกแบ่งออกเป็น สององค์กร และอีกหนึ่ง
กลุ่ม ได้แก่ BIRD(นก) BUNGA(ผลไม้) และ BUG(แมลง)(ผู้ที่ได้รับจดหมายทั้งสิบสามฉบับ) BIRD พยายามหาคนหรือ
เด็กที่มี พรสวรรค์ต่างๆเช่น นกร้อง นกคณิตศาสตร์ นักแฮคเกอร์ เป็นต้นนั้นคือ BUG และเมื่อใช้ผลประโยชน์อะไรซัก
อย่างเสร็จแล้วจะกำจัดทิ้ง BUNGA คือฝ่ายต่อต้านที่จะมาช่วย BUG จากการติดตามของ BIRD แต่ใช่ว่าจะทำสำเร็จ
ต่อมาอีกไม่นาน มีองค์กรใหม่ที่ชื่อว่า GHOST กำเนิดขึ้นเป็นฝ่ายที่ไม่เข้าและไม่ออกฝ่ายไหน เพียงแต่ที่เข้ามาเกี่ยวเพราะ
BUG บางคนที่เป็นนัก แฮคเกอร์ เข้าไปยุ้งบางอย่างจึงทำให้ GHOST เข้ามาพัวพันด้วย ผลสรุปของทุกอย่างจบลงด้วย
BIRD เป็นผู้ชนะเหล่า BUNGA ที่กระจายอยู่ทั่วโลกค่อยๆถูก BIRD กำจัดไปหมดจนเหลือนับคนได้ ส่วนองกรค์ GHOST
เมื่อกำจัดผู้ แฮคเกอร์ผู้นั้นได้แล้วก็หายสาบสูญไปในเงาเหมือนกับนามของเขาและไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวอีกเลย ส่วนชายที่ไป
เห็นบางสิ่งบางอย่างขององกรค์ที่กล่าวในขั้นต้นนั้นเขาลือกันว่าตายไปแล้ว ส่วนเด็กผู้หญิงและชายตัวใหญ่ไม่มีข่าวอีก
เลยทิ้งไว้เพียงรถสีดำและผู้หญิงใส่เสื้อร้านอาหาร ที่จำไม่ได้ว่าตัวเองมานอนอะไรอยู่ในรถคนนี้
ในห้องเล็กๆในบ้านเก่าๆทั้งหมดยกเว้น ฮอคและพอท ยืนอึ้งและมองมาที่เขาคนเดียว บางคนที่ไม่รู้เรื่องอะไร
เกือบรู้หมดและส่วนคนที่บอกว่ารู้ก็อึ้งไม่ต่างกัน
รู้ดีเชียวนะ พอทพูดท่าทางอารมณ์ไม่ดีเพราะไม่ถูกกับ ฮอค อยุ่แล้ว แน่หล่ะก็นาย
อดีตสมาชิค นักวางแผนของ BIRD ฮอคพูด ฉันรู้ดีแต่ฉันพร้อมเสมอว่าฉันไม่ใช่สายของ BIRD หากได้มีโอกาสที่จะให้
ฉัน พิสูจน์ความจริง เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
แล้วฉันจะรอดู พอทพูดอย่างใส่อารมณ์รุนแรงและไม่พอใจ
โอเค เปปพูดแทรก ฉันพอเข้าใจความสำคัญของการที่ฉันทำแก้วนั้นแตกแล้ว
ขอบคุณที่เข้าใจ พอทพูดและดูเหมือนอารมร์จะเย็นลงแล้ว บรรยากาศตอนนี้ค่ำแล้วแต่ทุกคนยังยืนคุยกันอยู่
ฉะนั้นสิ่งที่พวกมันตามหาฉันพอจะเดาได้แล้วว่ามันคืออะไร เพอร์พูดและยิ้ม พร้อมกับหยิบจดหมายฉบับหนึ่งขึ้นมา
มันเป็นจดหมายที่ยังใหม่เอี่ยมอยู่ ทุกคนเดินเข้ามาล้อมวงกัน
แล้วทำไมเธอไม่บอกเราหล่ะ เปปพูดด้วยอารมณ์รื่นเริงและตื่นเต้นเล็กน้อย
เพราะว่าวันนี้เป็นวันเดียวกับที่ชายคนที่ได้รับจดหมายฉบับที่สิบสี่เข้ามายุ้งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นๆยังไงหล่ะ เพอร์พูดชวนให้
ตื่นเต้น เราทุกคนที่มาที่นี่ยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้เสียเท่าไหร่เพียงแต่ได้รับรู้เรื่องราวบางอย่างยกเว้นฮอค
เธอพูดพร้อมกับมองและกวาดสายตาไปหาทุกๆคน ใครที่ได้อ่านจดหมายฉบับนี้แล้วจะเข้ามายุ่งเกี่ยวอย่างเต็มที่และ
ถอนตัวออกไปไม่ได้จนกว่าเรื่องทุกอย่างจะจบ เธอพูดพร้อมกับยิ้มด้วยความตื่นเต้น ใครพร้อมที่จะเข้ามาเกี่ยวกับสิ่งนี้
ให้เอามือมาจับที่จดหมาย เพอร์พูดจบแต่ไม่ถึงเสี้ยววินาที ทุกคนรวมทั้ง ฮอค ต่างก็เอามือยืนมาจับกันอย่างเบียดเสียด
สิ่งที่เป็นเพียงแค่จดหมาย กลับเหมือนมีแรงดึงดูดจากหลายๆคน ทั้งที่คนที่ไม่เกี่ยวรู้ว่าเมืออ่านจะเกิอะไรขึ้น จดหมายสี
ขาวนั้นไม่ได้เขียนหรือมาจากใคร เขาคนนั้นคือคนที่ คิดว่าถูก GHOST กำจัดไปแล้วนัก แฮคเกอร์ผู้รู้ความลับบองอย่าง
ขององกรค์ GHOST เขาผู้นั้นมีโค้ดเนมว่า
APPLE
จากผู้เขียนถึงผู้อ่าน
ขอบคุณมากนะครับถ้ามีใครอ่านจนจบ ทั้งคนที่เคยอ่านและไม่เคยอ่านผมจะพยายามเขียนให้เข้าใจทั้งสองฝ่ายครับ เพราะว่าไม่รู้จะเขียนได้ดีหรือปล่าวแต่ก็เต็มที่ครับ ตอนแรกผมก็นอนๆนึกอยู่ว่าช่วงนี้ไม่รู้จะทำอะไรเลยรื้อเรื่องเก่าๆเอามาเขียนใหม่ดีกว่า
อีกอย่างนึงผมไม่ค่อยอยากทิ้งเรื่องนี้ให้จบแบบไม่รู้เรื่องเสียด้วยครับ ยังไงก็ขอฝากไว้หน่อยสักเรื่องนะครับ ขอบคุณครับ[/CENTER]