พระเอกไทย VS พระเอกต่างประเทศ

http://www.cute-factor.com/images/sm...on/th_057_.gif เรื่องจริงเหมือนกันนะ http://www.cute-factor.com/images/sm...on/th_057_.gif

----------------------------------------------------------------------------------------
http://pe2.isanook.com/ns/0/ud/333/1669449/5241.jpghttp://pe2.isanook.com/ns/0/ud/333/1669449/5242.jpg

----------------------------------------------------------------------------------------
https://encrypted-tbn3.gstatic.com/i...7s7HWACw17zM3g

http://www.cute-factor.com/images/sm...5465323wan.gif
F.Sanook

ต่างชาติเป็นพระเอกได้ทุกวัยเพียงแค่เปลี่ยนบทบาทเท่านั้นเอง

แต่ต้องเข้าใจว่านิ้เทศศาสตร์ประเทศไทยคนจบเยอะ ตกงานเยอะ ไม่หล่อไม่สามารถก็ตกกระป๋องเยอะ 555+

หลังจาก 50 ก็ไปเปิดธุรกิจส่วนตัว นานๆทีก็จะมีรายการมาถ่ายทำชีวิตหลังออกจากวงการ :bye

ผมว่านักแสดงไทยเน้นแต่หน้าตา ต่างจาก ต่างชาติที่ฝีมือการแสดงสมบทบาททำให้เป็นที่นิยมแม่ว่าอายุจะมากขึ้น :cool:

50 หายสาปสูญ555

ต่างชาติดูที่ฝีมือล้วนๆ อย่างแฮริสัน ฟอร์ด ตอนอายุจะ 70 อยู่แล้วยังได้เป็นพระเอกอินเดียน่าโจนส์

คนไทยชอบรูปลักษณ์ภายนอกครับ พวกที่แก่ๆเลยไม่ได้เป็นพระเอก ชอบแบบนี้แหละครับคนไทยชอบแค่เปลือก ตัวตน(ทักษะการแสดง(ตีความสองชั้น เผื่อใครไม่เข้าใจหาว่าผมมั่ว))ไม่สน ไม่มาทีหลังด้วย

ใช่ครับดูอย่างเฮีย บุซ วิลลิส สิ ยังเป็นประเอกอยู่เลย

อ้างถึง:

---

ต่างชาติเป็นพระเอกได้ทุกวัยเพียงแค่เปลี่ยนบทบาทเท่านั้นเอง

แต่ต้องเข้าใจว่านิ้เทศศาสตร์ประเทศไทยคนจบเยอะ ตกงานเยอะ ไม่หล่อไม่สามารถก็ตกกระป๋องเยอะ 555+

---

เรียนนิเทศหวังเป็นดารา อย่าเรียนเลยดีกว่าจริงๆนะ เป็นดาราเอาเข้าจริงๆแค่ไปตามโมเดลลิ่งทิ้งเรซูเมไว้ จบ โชคดีอาจมีแมวมองมาเจอไม่ต้องเสียเงินเรียนหรอก นิเทศที่เรียนกันมี2อย่างคับ
1.ทำงานสายนิเทศ พวกโฆษณา PR นักข่าว หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตเบื้องหลังต่างๆ
2.มันเรียนง่ายดี

อ้างถึง:

---

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ liger0000

เรียนนิเทศหวังเป็นดารา อย่าเรียนเลยดีกว่าจริงๆนะ เป็นดาราเอาเข้าจริงๆแค่ไปตามโมเดลลิ่งทิ้งเรซูเมไว้ จบ โชคดีอาจมีแมวมองมาเจอไม่ต้องเสียเงินเรียนหรอก นิเทศที่เรียนกันมี2อย่างคับ
1.ทำงานสายนิเทศ พวกโฆษณา PR นักข่าว หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตเบื้องหลังต่างๆ
2.มันเรียนง่ายดี

---

จริง สายงานนิเทศ ไม่ได้ว่าจบมาเป็นดาราเสมอไป

เรียนนิเทศมีสายงานเบื้องหลัง สายงายซัพพอร์ทเยอะแยะมากมาย ซึ่งไม่เกี่ยวกับหน้าตา

จะเป็นดารา ไม่ต้องเรียนนิเทศครับ

ไปเดินเฉิดฉายให้โมเดลลิ่งเห็น ถ้าคุณดีจริงเค้าก็มาจีบไป หรือส่งใบสมัครไปตามโมเดลลิ่งชื่อดังๆ เยอะแยะ

หรือทำตัวเป็นเน็ตไอดอล เดี๋ยวก็มีคนสนใจ

ดาราไทยโดยเฉพาะผู้ชายหลายคนเรียนวิศวะด้วยซ้ำครับ ไม่ได้เรียนนิเทศ



ส่วนเรื่องการแสดงเป็นตัวเอก ต่างประเทศเค้าเน้นที่ฝีมือ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็เป้นตัวเอกได้ อยู่ที่เนื้อเรื่อง

ไม่เหมือนดาราไทยบางคน แข็งเป็นท่อนไม้ ยังเอามาเป็นพระเอก นางเอกได้เฉย

ส่วนเรื่องอายุ ปัจจุบันละครไทยส่วนใหญ่ เน้นหน้าตามาก่อน อย่างว่ามันเป้นธุรกิจ ว่าไม่ได้หรอก

ขอแค่มีเด็ก มีติ่ง มีสาวแก่ แม่หม้ายมาติดเยอะๆ ละครมันก็ขายได้แล้ว

อืม..ก็จริงแหะ 55+:D

ดาราต่างประเทศหลายคนอายุ 30up ยังเล่นเป็นเด็ก 18 อยู่เลยผมทึ่งและชอบตรงนี้ละ

น่าเศร้าแทนดาราไทย (แต่ก็นะ น่าเศร้าแทนวงการคัดเลือกดาราไทยมากกว่า หน้าตามาก่อนจริงๆ)

ตามนั้นครับ

มันต่างกันเยอะ555

ต่างชาติรับบทเป็นพระเอกได้ทุกวัย

หน้าตาสำหรับคนไทยมาเป็นอันดับ1ครับ รูปลักษณ์สำคัญ แต่ฝรั่งเน้นสามารถล้วนๆ คนไทยเกิน40ก็ปลดระวาง จำหน่ายเป็นบุคคลนอกวงการไปแล้ว(ใช้คำอย่างกะทหาร) แต่ฝรั่งบางคน ต่อให้อายุน้อย ฝีมือไม่ถึง มีปัญหาเยอะ การจ่ายงานก็น้อยตาม จนสุดท้ายโดนจำหน่ายออกเช่นกัน มันต่างกันเย้ออออออออออ

เหตุผมนี่แหละที่ผมชอบหนังฝรั่งตรงนี้แหละ555555555+

ดาราไทยยิ่งเก่งยิ่งแพงตกกระป๋องไว เพราะผู้จัดจะได้มีเงินเหลือเข้ากระเป๋าตังเองเยอะๆ ต่างชาติยิ่งเก่งยิ่งแพงยิ่งอยู่นานทุ่มงบเพื่อคนดูไว้ก่อนผลกำไรเป็นผลพลอยได้ เงินทองจะมาพร้อมชื่อเสียงถ้าทำหนังออกมาดี บางคนกำกับเรื่องเดียวดังก็มีงานมีเงินถ้า 2เรื่อง หรือ ร่วมมือกับคนอื่นก็ยิ่งดังและหนังออกมาดี คนดูก็ยิ่งรู้จัก และก็จะรวยและอยู่ได้นานๆๆๆๆๆๆๆ อย่างสตีเว่น สปิลเบิร์ก ที่เป็นตำนานไปแล้ว