เรื่องการเรียนการศึกษาในประเทศไทย

-ระบายนะครับ(ค.ห.ส่วนตัว)บางโรงเรียนอาจไม่เป็นแบบนี้ก็ได้ไม่ว่ากันนะครับแต่โรงเรียนผมเป็นแบบนี้
-ผมนั่งคิดไปมาก็ไม่แปลกใจว่าทำไมการศึกษาไทยถึงอยู่อันดับ 8

1.การเข้าเรียน เข้า7.50-8.00 จะบ้าตายเด็กจะเอาเวลาไหนไปพักผ่อน รวมถึงเด็กบางคนเรียนติวเตอร์อีก อีกทั้งยังต้องมีปัญหารถติดอีกเพราะงานผู้ใหญ่เข้า8-9โมงกันจริงไหม

2.ในคาบเรียนแต่ละวันครูบางคนไม่เข้าสอน เด็กก็เล่นกัน(งั้นเอาชั่วโมงนี้ไปอยู่บ้านไม่ดีกว่าหรอ)

3.จากข้อที่ 2 ในเมื่อครูบางคนไม่เข้าสอนเพราะติดภารกิจ ทำไมไม่เอาครูที่จบคณะสาขาเดียวกันมาสอน(บอกว่าสอนไม่ได้สอนได้แต่ประถม-ม.ต้น สอนไม่เก่ง)ซึ่งก็ต้องเริ่มจากการรับสมัครครูเข้าสอนในโรงเรียนแล้วว่ารับครูที่ดีหรือไม่

4.จากข้อที่ 3 ในเมื่อครูสอนไม่รู้เรื่องเด็กก็แห่ไปติวเตอร์กัน ซึ่งไอเนื้อหาจากครูที่สอนในโรงเรียนเกือบไม่ได้ใช้ งั้นเอามาสอนทำไม เสียเวลาทั้งเด็กทั้งครู

5.จากข้อที่ 4 ได้คำตอบมาว่าครูที่โรงเรียนสอนเรื่องวินัย ไม่ได้สอนแค่การเรียนอย่างเดียว จึงทำให้เด็กต้องมาโรงเรียน(นี้แหละข้ออ้าง )

6.การศึกษาไทยเรียน เรียน เรียน เรียนเข้าไป แข่งกันใครได้ที่1 ที่2 ถามเรียนพิเศษไหมแก ตอบเรียน เลิก2ทุ่มทุกวัน อยากสอบเข้าคณะ...ให้ได้

7.จากข้อที่6 ส่วนใหญ่เพื่อนที่มันอยากเข้าคณะดีๆ เพราะมันอยากรวย อยากมีชีวิตสุขสบาย ไม่อยากลำบาก เรียนอยู่นั่นแหละ แล้วจะหาประสบการณ์ชีวิตได้ไหมเนี่ย

ทั้งหมดนี้ทำให้ผมคิดว่าในปัจจุบันมีแต่ค่านิยมเรียนเก่ง/แข่งขัน/รวยก่อนตายทั้งนั้น น่าจะมีประดิษฐ์ คิดค้นอะไรแบบนี้บ้างเนอะ ผมก็หนีไม่พ้นไอค่านิยมบ้าๆนี่เหมือนกันนอกจากไปตายแล้วเกิดไหม55

http://4.bp.blogspot.com/-9Yh4Q6X1x_...ngHomework.gif

ก็นั้นละครับ นี้ไงเห็น คสช. กำลังจะปรับเปลี่ยนระบบการศึกษาแล้วนิ

เห็น คสช. บอกว่าจะลดเวลาเรียนให้นะประมาณปีหน้าหรือปีไหนผมก็ไม่รู้นะ

ปล.ปกติผมจะเรียนต่อสายสามัญแต่ไม่ไหวจริงๆ ผมเลยหนีไปเรียนช่างก็ไม่แตกต่างกันเลย หนักพอๆกันไม่ค่อยมีเวลาของตัวเอง (ก็นี่แหละนะการศึกษาไทย)

ตามความคิดของผมนะครับ รร ก็เปรียบเสมือนแหล่งอบรมสั่งสมวินัย ซึ่งแต่ละ รร ก็จะมีการสอนเรื่องนี้ที่แตกต่างกัน

บาง รร อาจจะเน้นมาก ซึ่งแน่นอนว่าในการเข้าศึกษาต่อในมหาลัยก็จะมีผลตอนสอบสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งด้วย(ก็เกิดจากตัวเราเองที่แสดงออกมานั่นแหล่ะ)

บาง รร อาจจะไม่เคร่งก็ไม่แปลกอะไร เพียงแต่ต้องอยู่ในกฏระเบียบมาตรฐานกันบางแหล่ะ ไม่งั้นนร ทุกคนในประเทศคงจะเน่าเฟะกันไปหมดแล้ว

ส่วนตัวผม ผมเรียนพิเศษเฉพาะที่สนใจจริงๆ ทั้งนี้ก็เพื่อประหยัดเงินพ่อแม่ในการส่งมาเรียนด้วย ถ้าหาตังค์เองได้คงเรียนหลายวิชาเหมือนกัน

การแข่งขันในเรื่องเรียนเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่ต้องรู้จักการมีสังคมด้วย เด็กบางคนเรียนเก่งมาก แต่ทำตัวไม่น่าคบก็ถือว่าพื้นฐานด้านสังคมย่ำแย่

คนเราจะดีได้นั้นผมสนับสนุนความคิดของ จขกท นะครับที่จะต้องมีประสบการณ์ด้วยไม่ใช่เรียนอย่างเดียว

แต่การที่จะใช้ประสบการณ์ที่ประสบมาให้เกิดผลทั้งด้านการเรียนและด้านการใช้ชีวิตเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นนั้นก็ต้องอาศัยวิชาการเช่นเดียวกัน

ง่ายๆเลยคือ คนที่ตั้งใจเรียนก็ย่อมแปลได้ว่าเป็นคนขยันมีความเอาใจใส่ความอดทน และเกรดก็เป็นตัวบ่งบอกสิ่งเหล่านี้ได้"ส่วนหนึ่ง"

และทำให้ทุกๆคนมองว่าเกรดที่ดีย่อมหมายถึงคนที่มีคุณภาพ มีความสามารถ เพราะการที่จะได้เกรดดีๆนั้นต้องอาศัยสิ่งเหล่านี้เกือบทั้งนั้น

แต่ก็ไม่เสมอไป อย่างที่บอกไปในข้างต้น เกรดดีไม่ได้แปลว่าจะเป็นคนดีของสังคมได้เสมอ บางคนอาจจะเห็นแก่ตัวก็ได้ หรืออาจจะแย่กว่านั้น

เรื่องเวลา อ เข้าบ้างไม่เข้าบ้าง ผมว่าเป็นเรื่องที่ควรปรับปรุง โดนอาจจะให้ นร ได้มีสิทธิ์เลือกวิชาที่อยากเรียนมากกว่าโดนบังคับตามหลักสูตร

ทำให้ได้ นร ที่ตั้งใจจะเรียนจริงๆ อ เข้ามาไม่สอนก็คงจะไม่ได้ เพราะสภาพแวดล้อมมันบังคับ สุดท้ายถ้าไม่สอนจริงๆก็คงต้องเปลี่ยน อ เป็นส่วนๆไป

เวลาเข้าเรียนผมว่าปัจจุบันก็ดีอยู่แล้ว คิดเอาง่ายๆแค่ว่าผู้ใหญ่ที่มีงานการทำแล้ว ส่วนใหญ่ก็เข้างานกัน 8-9 โมงทั้งนั้น

นี่เราแค่ไปเรียน ยังตื่นยังขยันรีบมาไม่ได้เลย จะนับประสาอะไรกับตอนที่จะโตเป็นผู้ใหญ่ จะไปเป็นคนที่รักษาเวลาได้ยังไง

ผมพูดตรงๆเลยนะครับว่า"เรียนหนังสือสบายที่สุดแล้ว ต่อให้เนื้อหามันจะยากหรือเยอะแค่ไหนก็ตาม"ไม่เชื่อลองไปทำงานซักเดือนนึงทุกๆวันดูสิ ;)

ปล.(แก้ไขครั้งที่ 1) ผมภูมิใจกับทุกๆคนที่ไม่ได้เรียนพิเศษและสามารถอ่านเองได้นะครับ ผมเองก็พยายามจะเป็นหนึ่งในนั้น แต่สุดท้ายก็ทำได้ไม่สุดซักที

ผมว่าบางทีการเรียนกวดวิชามันก็เป็นอะไรที่การศึกษาไทยของเราเอื้อประโยชน์ให้อยู่แล้ว สังเกตจากข้อสอบ gatpat ที่หลุดเข้าติวเตอร์ได้เกือบ 100%

แต่ไม่มีออกมาให้ นร ได้ลองศึกษาลองทำกันเลย นร ก็เลยต้องขวนขวายโดยอาศัยติวเตอร์เป็นตัวหาข้อสอบจริงมาให้ นี่แหล่ะครับที่ผมคิดว่าแย่ที่สุดแล้ว

ปัญหาหลักคือ คนคิดหลักสูตรไม่ได้สอนนี้หละทำให้ไม่รู้จริงๆควรจะจัดหลักสูตรยังไงให้เหมาะกับเด็ก แถมเปลี่ยนไปเรื่อยๆด้วยกลัวไม่มีผลงาน ตำราต่างๆนี้ยัดใต้ดต๊ะกันสนุกเลยคับ สุดท้ายมีแต่น้ำ และที่สำคัญที่สุดคือหน่วยงานราชการอย่างกระทรวงศึกษาทำงานไม่ฟังชั่นกันมาก ทำให้หลักสูตรออกอีกแบบหนึ่งข้อสอบออกอีกแบบหนึ่ง

อ้างถึง:

---

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ START

-ระบายนะครับ(ค.ห.ส่วนตัว)บางโรงเรียนอาจไม่เป็นแบบนี้ก็ได้ไม่ว่ากันนะครับแต่โรงเรียนผมเป็นแบบนี้
-ผมนั่งคิดไปมาก็ไม่แปลกใจว่าทำไมการศึกษาไทยถึงอยู่อันดับ 8

1.การเข้าเรียน เข้า7.50-8.00 จะบ้าตายเด็กจะเอาเวลาไหนไปพักผ่อน รวมถึงเด็กบางคนเรียนติวเตอร์อีก อีกทั้งยังต้องมีปัญหารถติดอีกเพราะงานผู้ใหญ่เข้า8-9โมงกันจริงไหม

2.ในคาบเรียนแต่ละวันครูบางคนไม่เข้าสอน เด็กก็เล่นกัน(งั้นเอาชั่วโมงนี้ไปอยู่บ้านไม่ดีกว่าหรอ)

3.จากข้อที่ 2 ในเมื่อครูบางคนไม่เข้าสอนเพราะติดภารกิจ ทำไมไม่เอาครูที่จบคณะสาขาเดียวกันมาสอน(บอกว่าสอนไม่ได้สอนได้แต่ประถม-ม.ต้น สอนไม่เก่ง)ซึ่งก็ต้องเริ่มจากการรับสมัครครูเข้าสอนในโรงเรียนแล้วว่ารับครูที่ดีหรือไม่

4.จากข้อที่ 3 ในเมื่อครูสอนไม่รู้เรื่องเด็กก็แห่ไปติวเตอร์กัน ซึ่งไอเนื้อหาจากครูที่สอนในโรงเรียนเกือบไม่ได้ใช้ งั้นเอามาสอนทำไม เสียเวลาทั้งเด็กทั้งครู

5.จากข้อที่ 4 ได้คำตอบมาว่าครูที่โรงเรียนสอนเรื่องวินัย ไม่ได้สอนแค่การเรียนอย่างเดียว จึงทำให้เด็กต้องมาโรงเรียน(นี้แหละข้ออ้าง )

6.การศึกษาไทยเรียน เรียน เรียน เรียนเข้าไป แข่งกันใครได้ที่1 ที่2 ถามเรียนพิเศษไหมแก ตอบเรียน เลิก2ทุ่มทุกวัน อยากสอบเข้าคณะ...ให้ได้

7.จากข้อที่6 ส่วนใหญ่เพื่อนที่มันอยากเข้าคณะดีๆ เพราะมันอยากรวย อยากมีชีวิตสุขสบาย ไม่อยากลำบาก เรียนอยู่นั่นแหละ แล้วจะหาประสบการณ์ชีวิตได้ไหมเนี่ย

ทั้งหมดนี้ทำให้ผมคิดว่าในปัจจุบันมีแต่ค่านิยมเรียนเก่ง/แข่งขัน/รวยก่อนตายทั้งนั้น น่าจะมีประดิษฐ์ คิดค้นอะไรแบบนี้บ้างเนอะ ผมก็หนีไม่พ้นไอค่านิยมบ้าๆนี่เหมือนกันนอกจากไปตายแล้วเกิดไหม55

---

โรงเรียนผมในมุมมองของผมนะ
1. เข้าเรียน 8 โมง สำหรับผมไม่มีปัญหา ผมไม่ใช่คนตื่นสาย ผมไม่ใช่คนนอนดึก (แต่ละวันนอนเที่ยงคืนถึงตี 1 ตื่น 6 โมงไม่ก็ 6 โมงครึ่ง)

2. และ 3. โรงเรียนผมเวลาครูติดภาระกิจ ไม่สามารถมาสอนได้ ครูคนนั้นก็จะไปขอให้ครูคนอื่นที่ว่างคาบนั้นพอดีมาสอนแทน อาจจะมีปัญหาสไตล์การสอนไม่ตรงกันบ้างสำหรับผมไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร บางครั้งหาครูคนอื่นมาสอนแทนไม่ได้ก็จะมีการแจ้งล่วงหน้าว่าคาบนี้งด ครูไม่อยู่ บลาๆ นักเรียนก็จะตัดสินใจล่วงหน้าได้ว่าจะเอาเวลาในคาบนั้นไปทำอะไร (ส่วนใหญ่ก็นอน 555)

4. สำหรับผมครูสอนรู้เรื่อง ครูสอนดี (มีไม่กี่คนที่สอนไม่ได้ ไม่รู้เรื่อง) แต่นักเรียนในโรงเรียนผมส่วนใหญ่ 90% ก็ยังไปเรียนพิเศษ เพราะเนื้อหาที่ครูสอนกับเนื้อหาที่ใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัยมันคนละระดับกัน นักเรียนจึงต้องเรียนในห้องเรียนเพื่อทำเกรด ในขณะเดียวกันก็ต้องเรียนในโรงเรียนกวดวิชาเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นไปได้ยากมากที่จะเรียนในโรงเรียนอย่างเดียวแล้วสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เว้นแต่ว่านักเรียนคนนั้นเก่ง+อ่านเองเพิ่มเติม

5. ครูต้องสอนวินัยเพราะหลักสูตรไทยมันบังคับ แต่โรงเรียนกวดวิชาไม่ต้องสอนเพราะเขาคิดหลักสูตรของเขาเอง ถามว่าจำเป็นต้องสอนไหม อันนี้แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน คนมันอยากเลวสอนยังไงมันก็เลวอยู่ดีนั่นแหละ

6. และ 7. True Story 555+ เรื่องประสบการณ์ชีวิตผมว่ากว่าจะได้ก็ตอนไปทำงานนู้น

สำหรับผม สิ่งที่ผมอยากให้เกิดขึ้นในการศึกษาไทยคือเปลี่ยนค่านิยม เช่น ค่านิยมของพ่อแม่ ที่อยากให้ลูกเป็นหมอ ค่านิยมในการจัดอันดับโรงเรียนด้วยการวัดจำนวนเด็กที่ติดหมอ อยากให้เด็กไทย พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ สนใจอาชีพอื่นบ้าง ไม่จำเป็นว่าอาชีพนั้นทำแล้วรวย ขอแค่ทำแล้วมีความสุขก็พอ แค่นั้นแหละ

แก้ไขเพิ่มเติม
เรื่องตรงต่อเวลา อาจารย์บางคนเคร่งกับเรื่องนี้มาก มาสาย 5 นาที = หักคะแนน ในขณะที่อาจารย์บางคนยังเข้าสอนไม่ตรงเวลา ปล่อยไม่ตรงเวลาเลย ผมชอบคำพูดของอาจารย์ท่านหนึ่งว่า "ถ้าอาจารย์ยังตรงต่อเวลาไม่ได้ ก็ไม่มีสิทธิ์ไปบังคับให้นักเรียนตรงต่อเวลา" ซึ่'อาจารย์คนนี้เคยเสนอเรื่องนี้เข้าที่ประชุมของโรงเรียน สุดท้ายก็ไม่มีใครยอมรับ 555

ิการศึกษาไทยมันพังทั้งระบบครับ ตั้งแต่ระดับกระทรวงเลย 555

ก็ต้องถามเด็กๆว่า ลดเวลาเรียน แน่ใจว่าอยู่บ้านจริงหรือเปล่า อยู่บ้านช่วยงานพ่อแม่ไหม ไปโรงเรียนจรองหรือเปล่า
ไม่ใช่เวลาเรียน เพิ่มเวลาเล่นเกม

ไม่ได้อะไรมากครับ แค่เด็กบางคน แค่เข้าโรงเรียน ยังจะไม่เข้าเลย

แต่เห็นด้วยเรื่องลดเวลาเรียน งานอย่าไปสั่งเยอะ ปรับแผนการสอนใหม่ อันนี้เห็นด้วยครับ
แต่เวลาว่าง ทำกิจกรรมในโรงเรียนจะดีกว่าครับ เป็นชมรม หรืออะไรก็ได้ ให้มากขึ้น งานอดิเรกอะไรพวกนี้

ผมว่า ไม่เกี่ยวกันนะ!!! ไม่งั้นก็คงไม่มีใคร สอบติด จุฬา หรือ มช หลอก!เด็กเก่ง เด็กเรียนเขาแบ่งเวลาได้! คือเขาคงไม่สนใจเรื่องพวกนนี้หลอก!! พวกที่ไม่เรียนพิเศษยังสอบติดได้เลย! คือเขาแบ่งเวลาเป็น!!มีสมาธิ หยุดเล่นคือหยุด!!

-ไม่เก่งก็ควรมองที่ตัวเอง ! เพราะอะไรเราถึงไม่เก่ง เวลาเรียนเหมือนกัน หนังสือเหมือนกัน !!! ผมก็ยอมรับผมไม่เก่ง

-ส่วนสอบ ผมก็ คล้ายนะ เอาที่เราเรียนมา!!!

-ติวเตอร์ กับ อาจารย์ เราเรียนกับอาจาร์ย ถูก!! ถ้าเรามีสมาธิ เราก็เกี่ยวได้เยอะ! /ติว ผมก็เรียนกับติวเตอร์ เป็นอะไรที่สุดยอดมาก สามารถสรุปเรื่องที่เราไม่เข้าใจเป็น ใน1ปี สอนเราได้ 1อาทิตย์ (ผมเรียนกับ ติวอังกฤษ 6ปี สรุปบท grammar conver voca ใน 2เดือน!!

*ผมอยากให้น้องๆ ม ต้น/ปลาย เปลี่ยนความคิดใหม่ ไม่ควรมาคิดเรื่องแบบนี้ ไม่ควรติ เราควรตั้งใจเรียน บอกไปคงไม่ทำ !! (ของแบบนี้ต้องเจอด้วยตัวเอง5555+ ) ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ง่ายแบบในความคิดเรา ใน วันปัจฉิม ม.ปลายมัน ต่างจาก ม.ต้นมาก!! เมื่อก่อนผมก็คิดแบบเดียวกับพวกคุณ คือ เบื่อพวกเด็กเรียน โตขึ้นกูจะเป็น คนรวยกว่าให้ดู
แก้ก่อนพิมพ์ผิด แม ร่งโครตเยอะ

เมื่อใดที่ท่านไปทำงานท่านอยากกลับมาเรียน สัก 5-6 ปีหลังจากนี้ท่านจะเข้าใจ ระบบไม่ได้แย่ไรมากมายหลอก แค่มันไม่เข้าทีเข้าทางแค่นั้นเอง แต่ก่อนผมเองเคยคิดแบบท่านนั้นละ

ระบบการศึกษาไทยมัน อ่อน ใช้ กฎ แบบทหารบังคับนู่นนั่นนี่ สร้างแรงกดดันมากมาย
สอนให้จำ ไม่ใช่สอนให้คิด ความรู้สึกผม มันเหมือน แบบ คนโดนจับมาแล้วมัดตัวให้ติดกับเก้าอี้แล้วเปิด วีดีโอ ให้ดุ ซ้ำไปซ้ำมา
ผมว่า การเรียนของเรายากกว่า ประเทศที่มันเจริญแล้วด้วยซ้ำ ยากเกินวัย สักแต่จะกรอกให้จำ

ึคสช เปลี่ยน ใหดีขึ้นเมื่อไร จะนับถือเลย ให้แบนเว็ปโป๊ ไปเลย บ่เซียงกัง

อันดับแรก (ผมคุุ้นเคยกับระบบราชการครู เลยมีมุมมองที่จะมาเพิ่มเติมให้)
จากข้อ 1. อันนี้ข้ออ้าง เวลาพักของเด็กนักเรียนมีมากกว่า คนทำงานออฟฟิตอีก
เช่น การทำงาน เข้า 09:00 เลิก 18:00 อยากได้เงินเพิ่มทำ OT หรือ งานเสริม + 3-4 ชม.(24:00) ตื่น 6 เดินทางไปทำงาน 1 - 2 ชม
จากข้อ 2.อันนี้ครูที่ดี ต้องเข้า ไม่ก็มีการเข้าแทน
จากข้อ 3.ครูสอนไม่รู้เรื่อง อันนี้ครูอ่อน ครูบ้านเรานะ ขาดความคิดสร้างสรรค์ ในการสอน พอบรรจุราชการได้ = ชาตินี้ไม่มีทางตกงานแน่นอน ผลคือ ได้ใจไงครับ ไม่พัฒนาตัว และเรื่องเนื้อหา กระทรวงเป็นคนจัด เป็นกฏหมายถ้าครูไม่สอนติดคุกนะ
จากข้อ 4 ข้อนี้ ต้องลองไปทำงาน แล้วลองขาดวินัยดู เช่น ไม่เข้างาน มาสาย อู่งาน (ไม่โดนไล่ออก ก็ถูกตัดเงิน) ซึ้ง ข้ออ้างทั้งหมด เพราะถ้าไม่ชอบเรียน ก็ กศน.แล้วทำงานเก็บเงินเช่นอายุ 16 - 35 ยังมีงานเงินเดือนหลัก หมื่นให้ทำเยอะแยะ หลังจากนั้นหายาก อยากรวยต้องมีหาเงินให้ได้ 2 ทาง
จากข้อที่ 5 อันนี้เห็นด้วย มีโอกาสรีบทำงานเถอะ part - time คิดดู อายุ 16 ทำงานเก็บเงินเล่นๆ เดือนละ 1,000 - 2,000 จะมีเงินเก็บตอนเรียนจบอายุ 23 - 25 ประมาณ 168,000 ลงทุนทำธุรกิจสบายๆ
จากข้อที่ 6 ย้อนไปข้อ 5 รวยแน่ถ้าเป็นธุรกิจส่วนตัว

ผมว่า การศึกษาไทยที่มันแย่ไม่เกี่ยวกับเวลาเรียนหรอก ครูล้วนๆ ครูอังกิดบางคนยังsneakๆfishๆ อยู่เลย

อ้างถึง:

---

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ left

ผมว่า ไม่เกี่ยวกันนะ!!! ไม่งั้นก็คงไม่มีใคร สอบติด จุฬา หรือ มช หลอก!เด็กเก่ง เด็กเรียนเขาแบ่งเวลาได้! คือเขาคงไม่สนใจเรื่องพวกนนี้หลอก!! พวกที่ไม่เรียนพิเศษยังสอบติดได้เลย! คือเขาแบ่งเวลาเป็น!!มีสมาธิ หยุดเล่นคือหยุด!!

-ไม่เก่งก็ควรมองที่ตัวเอง ! เพราะอะไรเราถึงไม่เก่ง เวลาเรียนเหมือนกัน หนังสือเหมือนกัน !!! ผมก็ยอมรับผมไม่เก่ง

-ส่วนสอบ ผมก็ คล้ายนะ เอาที่เราเรียนมา!!!

-ติวเตอร์ กับ อาจารย์ เราเรียนกับอาจาร์ย ถูก!! ถ้าเรามีสมาธิ เราก็เกี่ยวได้เยอะ! /ติว ผมก็เรียนกับติวเตอร์ เป็นอะไรที่สุดยอดมาก สามารถสรุปเรื่องที่เราไม่เข้าใจเป็น ใน1ปี สอนเราได้ 1อาทิตย์ (ผมเรียนกับ ติวอังกฤษ 6ปี สรุปบท grammar conver voca ใน 2เดือน!!

*ผมอยากให้น้องๆ ม ต้น/ปลาย เปลี่ยนความคิดใหม่ ไม่ควรมาคิดเรื่องแบบนี้ ไม่ควรติ เราควรตั้งใจเรียน บอกไปคงไม่ทำ !! (ของแบบนี้ต้องเจอด้วยตัวเอง5555+ ) ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ง่ายแบบในความคิดเรา ใน วันปัจฉิม ม.ปลายมัน ต่างจาก ม.ต้นมาก!! เมื่อก่อนผมก็คิดแบบเดียวกับพวกคุณ คือ เบื่อพวกเด็กเรียน โตขึ้นกูจะเป็น คนรวยกว่าให้ดู
แก้ก่อนพิมพ์ผิด แม ร่งโครตเยอะ

---

อีกมุมนึงอยากให้มองมุมของครูนะ คือจะมาปล่อยให้เด็กคิดเองโดยเราไม่ดูแลคงไม่ได้

จริง ๆ ผมเห็นด้วยที่จะลดเวลาเรียนลงนะ แต่ไม่รู้ว่าจะทำให้หนักมากขึ้นมัน
อย่างแรกก็ต้องวัดที่เป้าหมาย เช่น จบ ม.3 คุณต้องตอบตัวเองได้แล้วว่าจะทำอะไร จะทุ่มเทเรื่องอะไร เพื่อจะได้เอาเวลาที่ลดไปทำเรื่องนั้น ยกตัวอย่าง คนที่เป็นนักดนตรีก็คงรู้ว่าถ้าอยากจะยิ่งใหญ่ต้องซ้อมหนักแค่ไหน

จริง ๆ จะรู้ว่าทำอะไร มันก็มีหลายส่วนสนับสนุนนะ นอกจากเราต้องพิจารณาให้เป็น พ่อแม่ต้องสนับสนุน โรงเรียนต้องหาตัวอย่างมาให้เด็กเห็น และแนะนำทางการศึกษาให้เด็ก ไม่งั้นก็ไม่รู้จะลดไปทำไมนะ

ความคิดเห็นส่วนตัว ผมคิดว่าครูที่เรียนจบใหม่ๆและเก่งๆไปเป็น"ติวเตอร์"กันหมด
เพราะว่าสบายกว่า ได้เงินเยอะกว่า มีเวลาว่างมากกว่า และมีชื่อเสียงได้เร็วกว่า (ถ้าคนๆนั้นเป็นติวเตอร์ที่มีคุณภาพ)
สาเหตุที่สถาบันติวทั้งหลายเติบโตได้เป็นอย่างดีเพราะมีเหตุผลอย่างนึงคือ "ครูใน รร. สอนไม่รู้เรื่อง ออกทะเลทุกคาบ"

แต่ในทางกลับกัน คนไหนขี้เกียจ อยากสบาย หรือตกงานจากการเป็นติวเตอร์ ก็ไปเป็นครูราชการเอา
ตั้งแต่ผมเรียนกับครูที่พึ่งจบใหม่มาไม่มีคนไหนเลยที่จะสอนแบบจริงๆจังๆเลย

แต่ก็ยังมีครูจบใหม่เก่งๆบางคนที่ตั้งใจมาสอนพวกเราจริงๆนะครับ :cool:

ปล.พูดแรงไปขออภัยครับ
ปล.2 เรื่องเวลาเรียนเห็นเทอมหน้าจะปรับแล้วนี่หน่า (มาลดเวลาทำไมตอนผมเรียนจะจบแล้ว :sweat: )

เฮ้อ เรื่องนี้ไม่ควรเอามาคุยกันนะครับผมว่า คุยกันไม่รู้เรื่องหรอก (มันมีทั้ง ฝ่ายควรเปลี่ยนแปลง กับ ฝ่ายแบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว) ผมมองว่าประเด็นนี้มันก็เหมือน แท้ เถื่อน นั้นแหละ คุยกันไม่จบหรอก

ส่วนใหญ่ที่ครูสมัยนี้ไปเป็นติวเตอร์กันเพราะระบบเส้นสายทำให้ได้ใบสอนยากมาก เขาจึงไปเป็นติวเตอร์ไม่ผิดที่เขาจะทำอย่างนี้
ระบบมันมีปัญหามานานมากแล้ว แล้วที่ติวเตอร์ประสบความสำเร็จมากกว่าเพราะส่วนใหญ่เขารู้วิธีสอนยังไงให้คนสนใจไม่ใช่มาถงพูดๆๆ
ส่วนใหญ่ติวเตอร์เรียน 3 ชั่วโมงสอนจริงไม่ถึงชั่วโมงหรอกที่เหลือเน้นเฮฮาเป็นหลัก เน้นนอกเรื่องแต่ในขณะที่นอกเรื่องก็แฝงความรู้ไว้ด้วย
ทำให้มันหน้าสนใจและเข้าใจง่ายยังไง

ผมเรียนโรงเรียนสามมัคคีวิทยาคม เชียงราย เพื่อนผมตั้งใจเรียนแต่ในห้อง ขยันอ่านหนังสือ ไม่เรียนพิเศษ จบมอปลายเกรด 3.8 ตอนนี้ีจบจุฬาแล้วครับ รับปริญญาเร็วๆนี้ จากเรื่องที่ผมพูดมานั้น ทำให้รู้ว่า มันอยู่ที่คนครับ เกรดเยอะม่ได้บอกว่าเก่งก็จริงครับ แต่มันยังบอกถึงความมีระเบียบวินัย ขยันอดทน ไม่ได้มากันง่ายๆ อาจจะทำให้ส่งผลดีต่อการทำงานมากกว่าคนที่เกรดน้อยครับ นี่คือมุมมองจากหัวหน้าคนครับ อีกอย่างนึงที่ว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีคนทำอะไรใหม่ๆเลย เพราะการทำใหม่มันยากครับ สำหรับโลกที่มีมา 4.8 พันล้านปี แล้วคนที่เก่งๆก็โดนซื้อตัวไปทำงานให้ต่างชาติกันหมด ทีนี้จะเอาคนเก่งที่ไหนมาทำเรื่องใหม่ๆหละครับ ผมมีเพื่อนเป็นชาวเยอรมัน เค้าบอกว่า เค้าเรียน 10 โมง บ่ายโมงก็เลิกเรียนแล้ว ผมชอบมากครับ เดี๋ยวใช้หนี้ กยศ หมด ผมจะย้ายไปที่นู่นละ เบื่อเมืองไทย ล้าหลังเพราะมัวแต่ตาม ไม่ยอมคิดเองทำเองซักที

น่าจะปรับเปลี่ยนซะที รร. ผมก็เรียนหนักมากๆ ทั้งกฏระเบียบอีก
คาบเรียนก็เยอะ ท้อแท้มากๆครับ :dash

โทษการศึกษาอย่างเดียวก็ไม่ถูกนะครับ ต้องโทษสังคมไทยนี่แหละที่ปลูกฝังค่านิยมปริญญา จนเด็กๆมันคลั่งเกรดกันไปหมดแล้ว

เด็กเองก็มีทางเลือกน้อยมาก เพราะถูกค่านิยมขีดเส้นไว้ให้เดินตาม สุดท้ายก็มานั่งด่าการศึกษากันแบบนี้แหละ

นักเรียนเรียนกันไม่เป็น บริหารเวลาก็ไม่เป็น ไม่ค่อยหาวิธีเรียนที่มีประสิทธิภาพแต่หาคนสอนที่มีประสิทธิภาพ
ถ้าเรียนม.ปลายแล้วควรอ่านหนังสือเองให้เป็น สรุปให้เป็น ไม่ใช่นั่งทื่อๆอยู่ในห้องทั้งที่ไม่รู้เรื่องแถมไม่กล้าถาม
แล้วมโนว่าตัวเองเป็นเด็กตั้งใจเรียนดีกว่าพวกที่โดดๆ

เรื่องเรียนพิเศษเอาจริงๆไม่จำเป็นเลย เอาเงินที่จะไปใช้เรียนพิเศษ ไปซื้อหนังสืออ่านเองได้เป็นสิบเล่ม
ที่เรียนกันแล้วไม่ค่อยถามส่วนหนึ่งเพราะจับจุดไม่ถูกว่าอยู่จุดไหน จะถามยังไง แต่ถ้าอ่านเองจะรู้ว่าตัวเองติดตรงไหน
จากนั้นค่อยไปถามอาจารย์ ถึงจะสอนไม่เก่งแต่ความรู้ท่านเยอะ เรียนก็เรียนกันเป็นกลุ่ม เพื่อนที่มีเป้าหมายไม่ว่า
หมอ วิศวะ นิเทศ สถาปัต วิทยา นิติ อะไรก็แล้วแต่ถ้าตั้งใจจริงพอขึ้นม.ปลายควรหาหนังสือมาศึกษาเฉพาะทางได้แล้ว
พอเก่งแล้วก็สรุปโน้ตแลกกับเพื่อนที่ถนัดอีกอย่าง แล้วก็ติวๆกันไป

ถ้าเวลาเรียนมันมากไป รู้สึกเหนื่อย เบื่อ เซ็ง ก็โดดเลย ไปเล่นพวกกีฬาที่ได้เหงื่อ ฟุตบอล แบตมินตัน ตะกร้อ บาสอะไรก็ได้
เล่นเกมไว้หลังเลิกเรียนดีที่สุด เล่นเสร็จพอสมองโปร่งก็กลับมาศึกษาส่วนที่โดดไป

ผมกับเพื่อนเรียนกันแบบนี้ ส่วนใหญ่แทบไม่เข้าเรียนกันเลย สรุปโน้ตมาติวกันก่อนสอบหนึ่งอาทิตย์คะแนนดีกันทุกคน
จนโดนพวกที่นั่งเรียนเกลียด หาว่าโกง ลอก อะไรก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ก็ได้ดีกันทุกคน ครุจุฬา วิศวะเกษตร บางมด ลาดกระบัง

เรียนเองเป็น อยู่มหาลัยจะสบายมาก แต่ถ้าต้องพึ่งกวดวิชาตลอด ไปมหาลัยอาจสบายในปีแรกแต่ปีหลังๆจะหนักขึ้น
เพราะเนื้อหาเฉพาะทางในมหาลัย มันไม่ค่อยจะมีเปิดสอนกวดวิชากันหรอก