ความจุต่อพื้นที่ของ SSD แซงหน้า HDD เป็นที่เรียบร้อย ปีหน้าแนวโน้มราคา SSD ลดฮวบ !
ความจุต่อพื้นที่ของ SSD แซงหน้า HDD เป็นที่เรียบร้อย ปีหน้าแนวโน้มราคา SSD ลดฮวบ !
http://iam.zolkorn.com/wp-content/up...AND.jpg?iv=120
เป็นที่ทราบกันถ้วนหน้ากันอยูแล้วว่า ณ เวลานี้ SSD กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมใช้งานกันอย่างกว้างขวางมากขึ้น ด้วยราคาต่อความจุที่เริ่มเป็นมิตรต่อกระเป๋านั่นเอง แต่จะอย่างไรแล้วฮาร์ดดิสก์มันก็จะยังคงเป็นที่เลือกใช้งานอยู่เหมือนเดิม เพียงแค่จะสลับปรับเปลี่ยนตำแหน่ง จากเดิมที่จะเป็นพื้นที่หลักสำหรับการติดตั้ง OS กลายเป็นตัวเก็บข้อมูลทั่วไปหรือเป็นพื้นที่จัดเก็บไฟล์ในปริมาณมาก ๆ ดังนั้นในเวลานี้ผู้ใช้งานที่ยังไม่ได้เน้นถึงเรื่องของประสิทธิภาพมากนัก ก็ยังอาจจะเลือกใช้งานฮาร์ดดิสก์เป็นสื่อจัดเก็บข้อมูลที่เป็นทั้งตัวหลักสำหรับติดตั้ง OS และจัดเก็บข้อมูลด้วยในตัวเดียวกัน ส่วนในอีกกลุ่มที่เน้นประสิทธิภาพก็อาจจะใช้ SSD ในขนาดพื้นที่ไม่สูงมากนักเป็นตัวหลักและใช้ฮาร์ดดิสก์เป็นพื้นที่เก็บไฟล์ข้อมูลทั่วไป แต่ทว่าหลักจากนี้ไปกฏดังกล่าวนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อทาง Micron Technology ได้ออกมาประกาศว่า สามารถทำการเพิ่มขนาดความจุต่อพื้นที่ของ NAND flash ได้สูงกว่าฮาร์ดดิสก์เป็นที่เรียบร้อยแล้วจากในงาน 2016 IEEE International Solid State Circuits Conference
ดูเหมือนว่า Micron น่าจะกำลังก้าวกระโดดนำหน้าคู่แข่งอื่น ๆ ในตลาดของสื่อจัดเก็บข้อมูลในแบบ flash storage ทั้งในเรื่องของความจุและประสิทธิภาพ จากที่ทาง Micron ได้ออกมาระบุหรือเคลมว่าตนเองสามารถเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลให้กับชิบ NAND flash แบบใหม่ที่เป็น 3D NAND flash ได้มากถึง 2.77Tbpsi (Tbits per square inch เทราบิตต่อตารางนิ้ว) ในขณะที่ผู้นำในตลาด SSD ในเวลานี้อย่าง SAMSUNG นั้นสามารถทำได้สูงสุดเพียง 1.19Tbpsi จากข้อมูลที่เคยออกมาระบุไว้จากปีที่แล้วและในปีนี้ก็คาดว่าน่าจะทได้ในขนาด 1.96Tbpsi และจากขนาดของความจุต่อพื้นที่ตามที่ Micron Technology ออกมาบอกนั้น ก็ถือได้ว่าสามารถทำได้สูงกว่าความจุต่อพื้นที่ของ HDD ในปัจจุบันนี้ที่มันจะมีความจุสูงสุดเพียง 1.3Tbpsi ซึ่งความจุระดับนี้ก็จะมีให้เห็นเฉพาะ HDD ในกลุ่มตลาดองค์กรเท่านั้นหากเป็น HDD ในกลุ่มตลาดผู้ใช้งานทั่วไปมันจะมีความจุต่อพื้นที่สูงสุดเพียงประมาณ 850Gbpsi แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นข้อมูลตามที่ทาง Micron ออกมาประกาศตรงนี้มันก็จะยังคงเป้นเพียงแค่ความสำเร็จที่สามารถทำได้ในแล็ปของตนเองเท่านั้น ยังไม่ได้ถึงขั้นพร้อมผลิตหรือผลิตใช้งานได้แล้วแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันในงาน ISSCC (IEEE International Solid State Circuits Conference) ในปีนี้ก็มีผู้ผลิตมากมายที่ต่างก็ขนสื่อจัดเก็บข้อมูลในแบบความจุสูงพิเศษหรือ super-high density ออกมาแสดงกัน กระนั้นล้วนแล้วก็ยังเป็นความสำเร็จในระดับแล็ปยังไม่ใช่อุปกรณ์ที่พร้อมจะผลิตขายจริง ส่วน SSD ในแบบความจุสูงเองก็ไม่ถือว่าอยุ่ไกลจากตลาดมากนักแล้วเช่นกันในเวลานี้ เพราะทาง SAMSUNG เองก็เคยบอกว่าในปีนี้ตนเองจะปล่อย SSD ในขนาดความจุ 16TB ออกมาหรือถ้าที่มีให้เห็นบ้างแล้วในตลาดก็จะเป็น Fixstars ที่มีออกมาจำหน่ายจริงแล้วในขนาดความจุ 13TB แต่ราคาก็สุดโหดเช่นกันด้วยราคากว่า $13,000US (500,000บาท) ซึ่งหากเรามองกันที่เรื่องของราคาต่อความจุในเวลานี้ระหว่าง SSD และ HDD นั้น ตัว HDD ก็จะยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าและหากมองกันถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับ SSD ในเรื่องนี้คาดกันว่าในช่วงปีหน้าหรือปี 2017 น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ราคาของ SSD เป็นที่โดดเด่นและน่าสนใจส่วนราคาของ HDD ก็น่าจะยังคงที่อยู่
อ้างถึง:
ZoLKoRn Say : จากข้อมูลที่เราได้รับทราบกันในวันนี้ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับตลาดของสื่อจัดเก็บข้อมูลในอนาคตอันใกล้นี้ และจากสิ่งที่ทาง Micron Technology ออกมาประกาศที่แสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีการผลิต SSD กำลังจะก้าวขยับสูงขึ้นไปอีกขั้น สามารถทำความจุต่อพื้นที่ได้มากขึ้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ความจุต่อหน่วยหรือต่อชิบของ NAND flash จะมีความจุมากขึ้น และมันก็ย่อมจะส่งผลต่อเรื่องของราคาที่ช่วยให้ราคาของ SSD มีต้นทุนที่ถูกลงไป เพราะการผลิตในแต่ละครั้งที่จำนวนเท่าเดิมแต่ได้ความจุมากขึ้นนั่นเอง ส่วนที่บอกว่าจะทำให้ SSD มีราคาถูกลงไปนั้น ตรงนี้ก็ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า ไม่ได้หมายความว่า SSD บนเทคโนโลยีใหม่ที่มาพร้อมกับความจุในระดับมหาศาลจะถูกไปกว่าปัจจุบันนี้ในทันที แต่มันจะหมายถึงว่าราคาของ SSD บนเทคโนโลยีปัจจุบันนี้มันจะมีราคาที่ถูกลงไปมาก ส่วนเทคโนโลยีใหม่ของใหม่ก็อาจจะเข้ามาแทนที่ราคาเดิมในวันนี้ แต่กระนั้นหากมองในภาพรวมก็ถือว่าถูกลงไปมากแล้ว เพราะหากเราย้อนกลับไปเมื่อสัก 2-3 ปีที่ผ่านมา SSD ยังถือว่าเป็นเรื่องไกลตัวอยู่เลย แต่ทุกวันนี้ SSD 2.5″ ในขนาดความจุ 128GB สามารถหาซื้อได้ในราคาไม่ถึง 2000 บาทแล้วด้วยซ้ำไป
สำหรับข้อมูลในการประเมินจากข่าวข้างบนที่ว่า คาดกันว่าราคาของ SSD น่าจะเริ่มปรับตัวลงอย่างเห็นได้ชัดจะเป็นในช่วงปี 2017 ซึ่งมันก็เคยมีการประเมินกันไว้จากทาง DRAMeXchange และมาในวันนี้กับสิ่งที่เราได้เห็นกันไป ก็คิดว่าน่าจะเป็นช่วงเวลาประมาณนี้จริง ๆ ที่ราคาของ SSD จะขยับลดลงมาจนทุกคนสามารถจะหันมาเลือกใช้งาน SSD เป็นหลักอาจจะทั้งเป็นตัวลง OS และจัดเก็บข้อมูลที่เรียกใช้งานบ่อย ๆ ซึ่งอีกหนึ่งสัญญาณที่พอจะช่วยยืนยันในเรื่องนี้ได้ก็จากการที่ทาง Muskin เคยออกมาบอกในช่วง CES ที่ผ่านมาว่า กำลังเตรียมตัวจะปล่อย SSD ในขนาด 4TB ที่อาจจะมีราคาในช่วง $500US ออกมาให้ได้เลือกใช้งานกัน ส่วน HDD ก็จะยังไม่หายไปไหนแต่จะเป็นการนำมาเก็บข้อมูล Cold data หรือข้อมูลที่เก็บสำรองเอาไว้ไม่ค่อยจะเรียกใช้งาน ก็ยังต้องรอดูกันต่อไปว่าในท้ายที่สุดแล้วมันจะออกไปในทิศทางใดสำหรับเรื่องนี้
Credit: http://www.zolkorn.com/news/flash-me...l-hard-drives/
