เขาเกิดที่ นครนิวยอร์ก มีพ่อแม่เป็นชาวอิตาเลียน แฟรงค์ตั้งใจเรียนเพื่อที่จะเป็นบาทหลวงในคริสต์ศาสนานิกายคาทอลิก แต่แล้วเขากลับเปลี่ยนใจโดยมองว่าไม่สามารถให้อภัยผู้ที่ทำชั่วได้ เขาจึงเลือกสมัครเข้าเป็นทหารนาวิกโยธิน โดยก่อนจะเข้ารับราชการทหารนั้น แฟรงค์ได้แต่งงานกับมาเรียซึ่งท้องก่อนแต่ง
แฟรงค์ได้เรียนจบหลักสูตรการฝึกเบื้องต้น ก่อนเข้าประจำการในกองทัพทหารราบ ตามด้วยหน่วยลาดตระเวนของนาวิกโยธิน,หน่วยลาดตระเวนของกองทัพบก,และพลทหารซุ่มยิง
เมื่อได้รับการรับรองจากทางศาลแล้ว เขาก็ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียนที่กองทัพอากาศ ตามมาด้วยการเข้าฝึกกับหน่วยรื้อถอนและทำลายใต้น้ำของกองทัพเรือ
จนในที่สุดก็ได้รับการรับรองให้เป็นทหารหน่วยชีล (SeAL) ที่มีศักยภาพทั้งทางบก,ทางน้ำ และทางอากาศ และได้รับใช้ชาติในสงครามเวียดนามในหน่วยพิเศษ ด้วยวีรกรรมอันโดดเด่นทำให้แฟรงค์ได้รับเหรียญกล้าหาญมากมาย
หลังจากกลับจากเวียดนามได้ไม่นาน แฟรงค์ก็พาภรรยาและลูกๆ ไปปิคนิคที่เซ็นทรัลปาร์ค พวกเขาได้เป็นประจักษ์พยานในการก่ออาชญากรรมของแก๊งค์มาเฟียคอสต้าที่จับตัวกระจอกข่าวมาแขวนคอจนเสียชีวิต ด้วยเหตุนี้แก็งมาเฟียจึงจำต้องเก็บบรรดาพยานในเหตุการณ์ทั้งหมดอันรวมไปถึงแฟรงค์และครอบครัวด้วย แม้ว่าแฟรงค์จะรอดชีวิตมาได้ แต่ลูกเมียของเขาก็ตายเรียบ
และแม้ว่าแฟรงค์จะชี้ตัวมือปืนที่ทำการสังหารโหดครอบครัวของเขากับตำรวจ แต่ดูเหมือนว่าบรรดาผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จะตกอยู่ใต้อิทธิพลแก๊งมาเฟียอยู่เหมือนกัน เขาจึงตัดสินใจว่าสิ่งเดียวที่สามารถลงทัณฑ์อาชญากรเหล่านี้ได้ก็คือ การเผชิญหน้าฆ่าล้งบางแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
แฟรงค์จึงเริ่มตกแต่งเสื้อเกราะด้วยการวาดหัวกะโหลกขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางอก และออกปฏิบัติภารกิจล่าล้างแค้นกับแก๊งคอสต้าที่พรากคนรักไปจากเขาทีละคนๆ ด้วยแผนการอันแยบยลในนามพันนิชเชอร์ แอนตี้ฮีโร่ผู้ทำหน้าที่เป็นศาลเตี้ยเพื่อปราบปรามเหล่าอาชญากรชนิดถึงพริกถึงขิง บนเส้นทางแห่งการเป็นศาลเตี้ยของพันนิชเชอร์นั้น เขาต้องเข้าไปพัวพันกับบรรดาซุปเปอร์ฮีโร่มากมาย โดยเฉพาะ สไปเดอร์แมน และ แดร์เดวิล ที่เป็นฝ่ายจับตัวพันนิชเชอร์เข้าซังเตอยู่บ่อยครั้ง แม้ว่าพันนิชเอร์จะมีทักษะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่ด้อยกว่าแดร์เดวิล แต่เขาก็ได้รับการกล่าวถึงในฐานะอาชญากรที่อันตรายที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่เพราะในขณะที่เขาถูกจองจำอยู่ในคุกริเกอรส์ไอส์แลนด์ที่มีอาชญากรต้องขอโทษอยู่แน่นเอี๊ยด เขาก็ยังฆ่าพวกมันได้อย่างสบายๆ โดยไม่รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
ด้วยความชำนาญด้านการต่อสู้ ทำให้เขาไม่คิดจะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในคุกดั่งเช่นนักโทษอื่นๆ และด้วยความที่เขายังยึดมั่นอยู่กับหลักปฏิบัติและวินัยทางทหาร ทำให้เขาฝึกฝนทักษะทางการทหารอย่างต่อเนื่องในทุกเมื่อที่มีโอกาส ทั้งยังออกกำลังกายอย่างเป็นบ้าเป็นหลังเพื่อรักษาร่างกายให้อยู่ในสภาพพร้อมเสมอ เมื่อออกจากคุก เขาได้เข้าร่วมกับทีมซุปเปอร์ฮีโร่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสไปเดอร์แมน,กัปตันอเมริกา หรือ ไนครอว์เลอร์ ตลอดช่วงอายุ 70 จนถึงต้นยุค 80 โดยการต่อสู้ของพันนิชเชอร์นั้นจะดูรุนแรงสุดโต่งมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการที่เขาถูกวางยาที่เปลี่ยนแปลงสภาพจิตใจของเขาได้ ในช่วงยุค 90 นั้น เขาก็มีผู้ช่วยนามว่า Microchip (ไมโครชิพ) ที่คอยสนับสนุนประดิษฐ์คิดค้น, และจัดหาอาวุธและยานพาหนะสุดไฮเทค อาทิ รถตู้เสริมเกราะพร้อมรบ และกลายมาเป็นคู่หูศาลเตี้ยปราบอธรรมของเขาไปในที่สุด ตลอดช่วงยุค 90 นี้เองที่พันนิชเชอร์ได้ล้มล้างองค์กรอาชญากรรมแทบทุกแห่ง อาทิ แก๊งมาเฟียอิตาเลี่ยน, แก๊งมาเฟียรัสเซีย, แก๊งยากูซ่าหรือมาเฟียญี่ปุ่น, แก๊งค้ายาเสพย์ติดชาวโคลัมเบียและเม็กซิกัน, ผู้ก่อการร้ายชาวตะวันออกกลาง, พวกชาวจีนทำธุรกิจผิดกฎหมาย, พวกม๊อบชาวไอริช, แก๊งมอเตอร์ไซค์, แก๊งข้างถนน
พวกทหารนอกประจำการที่ลักลอบค้าอาวุธเถื่อน, พวกปล้นชิงทรัพย์, พวกฆาตรกร, พวกข่มขืนกระทำชำเรา, พวกจิตวิปริต, พวกเหยียดเชื้อชาติหัวรุนแรง, พวกซาดิสม์, พวกล่อลวงทางเพศเด็ก, และพวกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ทุจริตหรือคอร์รัปชั่น อีกทั้งยังเข้าจู่โจมธุรกิจค้ายา, ค้าอาวุธ, ค้าของเถื่อน, ฟอกเงิน และค้ามนุษย์ อย่างไร้ซึ่งความปราณีอีกด้วย
ด้วยความที่พันนิชเชอร์นั้นมักจะปราบปรามเหล่าอาชญากรด้วยวิธีเดินกน้าฆ่าลูกเดียว จึงทำให้มีตัวร้ายเพียงไม่กี่ตัวที่ยังลอยหน้าให้พันนิชเชอร์ได้ปราบเล่นอยู่เป็นระยะๆ ประมาณว่าหนีเอาตัวรอดไปได้บ้าง หรือไม่ก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ได้ เช่น Jigsaw อีกทั้งยังมี คิงพิน ศัตรูตัวพ่อคนเดียวกับกับแดร์เดวิล ในขณะเดียวกัน แดร์เดวิลและพันนิชเชอร์ก็เกลียดกันเข้าไส้ เพราะแดร์เดวิลนั้นไม่ชอบวิธีการของพันนิชเชอร์ที่โหดร้ายทารุณเกินกว่าผู้พิทักษ์ที่มนุษยธรรมเค้าทำกัน และนอกเหนือจากคิงพินแล้ว แดร์เดวิลเองก็ยังคงต้องคอยต่อกรกับเหล่าศัตรูคู่แค้นของซุปเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆ ด้วยไม่ว่าจะเป็น แจ็คเคิล,บุชแว๊กเกอร์,ด๊อกเตอร์ดูม,เดอะรีเวอรส์,บลูอาย
ในช่วงกลางยุค 90 พันนิชเชอร์กลับเข้าร่วมกับองค์กรอาชญากรรมระดับครอบครัวจนกลายสถานะมาเป็นหัวหน้าองค์กรเสียเอง ก่อนจะถูก วูล์ฟเวอรีน และ นิค ฟิวรี่ ปราบปรามลงได้ในที่สุด
และในช่วงกลางยุค 2000 นี้พันนิชเชอร์ซึ่งกลับมาผดุงความยุติธรรมแบบตาต่อตาฟันต่อฟันอีกครั้ง ได้ต่อกรกับเหล่าอาชญากรประเภทพวกฉ้อฉลในระดับองค์กร,ค้าทาสกาม
และพวกก่อการร้ายอันเป็นประเภทของอาชญากรรมที่อินเทรนด์ตามยุคสมัยและแตกต่างจากอาชญากรรมในยุคก่อนๆ อีกทั้งยังมีองค์กรลับระดับประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง อาทิ ซีไอเอ และ เคจีบี
ความสามารถของ พันนิชเชอร์ ด้วยความที่เขาได้รับการฝึกฝนทางการทหารหลากหลายรูปแบบทุกหน่วยเหล่า ทำให้เขาไม่เพียงมีทักษะทหารราบเท่านั้น แต่ยังมีทักษะด้านการปฏิบัติการพิเศษ รวมถึงการใช้งานและดูแลรักษาอาวุธปืนและวัตถุระเบิด นอกจากนี้เขายังถูกฝึกด้านการแทรกซึมเข้าไปยังพื้นที่ที่มีการป้องกันอย่างหนาแน่นโดยเหล่าผู้ก่อการร้าย เพื่อลอบสังหาร,จับกุมตัว หรือจากกรมข้อมูลทางการทหารและสามารถอำพรางตัวด้วยวิธีการอันหลากหลาย ในส่วนของการฝึกฝนภาคอากาศนั้น พันนิชเชอร์ยังสามารถกางร่มชูชีพและร่อนลงได้อย่างชำนาญทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน และในส่วนของการฝึกของหน่วยนาวี เขามีทักษะสูงด้านการปฎิบัติการใต้ทะเล อันรวมไปถึงการรื้อถอนทำลายสิ่งต่างๆ ใต้ผืนน้ำด้วย และมีทักษะสูงด้านการใช้วัตถุระเบิดตั้งแต่ไดนาไมต์แบบพื้นๆ ไปจนถึงระเบิดพลาสติกและระเบิดประเภทที่ทำขึ้นเองอย่างทันทีทันใด ด้านทักษะการต่อสู้ของเขาก็เหลือร้ายไม่ว่าจะมาแบบเดี่ยวๆ หรือหมาหมู่,มือเปล่าหรือติดอาวุธ เขาก็สามารถทำให้คู่ต่อสู้ที่แข็งแรงกว่าลงไปนอนกองกับพื้นได้อย่างสบายๆ ที่เด็ดที่สุดคือเขาเชี่ยวชาญด้านการใช้มีดโดยเฉพาะซึ่งเป็นอาวุธที่เขาโปรดปรานและมักจะใช้อยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งเขายังเป็นนักแม่นปืน ชำนาญและมีประสบการณืในการรบแบบกองโจร รวมไปถึงเป็นช่างเกราะ,ช่างปืน และผู้ชำนาญการด้านการใช้ยาอีกด้วย
พันนิชเชอร์นั้นมีอาวุธให้เลือกใช้มากมายราวกับมีคลังแสงเป็นของตัวเองตั้งแต่ปืนไรเฟิลทั้งแบบอัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติ,ระเบิดแสงแสวงเครื่อง แก๊สน้ำตา และมีดรบ ส่วนอาวุธที่พันนิชเชอร์โปรดปรานก็คือ มีดขีปนาวุธที่สามารถยิงเข้าหาเหยื่อจนเสียชีวิตได้ แต่เขามักจะใช้อาวุธทางการทหารสหรัฐฯ เช่น ปืนเอ็ม16,ปืนเกรเนดเอ็ม 203,ปืนพกเอ็ม 1911,ปืนกลเบาเอ็ม 249,และมีดรบเกอร์เบอร์มาร์คทู
อีกทั้งยังมีชุดเกราะกันกระสุนเคฟลาร์ที่แม้ว่าจะกันกระสุนได้แทบทุกชนิด แต่หากโดนจังๆ หรือโดนต่อเนื่องก็ก่อให้เกิดความเจ็บปวดได้เช่นกัน
ที่เจ๋งที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นการที่พันนิชเชอร์นั้นอาศัยเทคโนโลยีและอาวุธเหล่าร้ายและซุปเปอร์ฮีโร่ต่างๆ มาใช้ด้วย อาทิ ระเบิดฟักทองและเครื่องร่อนของกรีนก๊อบบลิน,แขนกลปลาหมึกของด๊อกเตอร์อ๊อกโตปุส, โล่ที่สร้างขึ้นเลียนแบบโล่ของกัปตันอเมริกา,อุ้งเล็บของโอวล์,ถุงมือหุ้มโลหะของโกสต์ไรเดอร์ สมแล้วที่เป็นแอนตี้ฮีโร่ผู้ปราบปรามเหล่าร้ายอย่างตาต่อตาฟันต่อฟัน
Credit : MThai