ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ Sticker Line ออกใหม่ โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin Joker Game Official Fanpage
ให้เช่า Colocation
สติ๊กเกอร์ไลน์
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin
เฟสบุ๊คเพจ

กำลังแสดงผล 1 ถึง 24 จากทั้งหมด 24
  1. #1
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,440
    กล่าวขอบคุณ
    5
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,811

    อเมริกา อิรัก อิร่าน ซัดดัม จอสบรูส ใครอยากรู้ความจริงเข้ามารับฟังครับ

    พูดถึงชาติมหาอำนาจอเมริกาแล้วมีหลายเรื่องทั้งดีและไม่ดีรวมอยู่ทั้ง สองอย่าง แต่อย่างใหนมีเปอร์สูงกว่าเราต้องค้นหาความจริง

    ชาติอเมริกาขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศเจ้าพ่อใหญ่ในวงการที่ผลิตอาวุธสงคราม อันดับ 1 ของโลก อาวุธอเมริกาตีตลาดไปทั่วทุกมูมโลกไม่ว่าประเทศใดที่อยู่ในแผนที่โลก อาวุธที่เมคอิน usa ก็อยู่ในประเทศนั้นๆ

    คุณดรีมเชื่อไหมว่าอาวุธของผู้ก่อการร้ายอัลไคดาที่ใช้ยิงต่อสู้กับทหาร อเมริกันบางชนิดก็เมคอิน usa เหมือนดาบนั้นคืนสนองตน

    ป้าจะขอเล่าเหตุการณ์ในตะวันออกกลางสมัยสงครามระหว่างอีรักกับอิหร่านให้ ทราบ ตอนนั้นอิหร่านกับอเมริกาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันสาเหตุเพราะอเมริกาเข้าข้าง พระเจ้าชายชาร์ สมัยนั้นอเมริกาและอังกฤษกดอิหร่านให้อยู่ใต้ตีน

    การซื้อขายน้ำมันดิบในราคาที่โคตรถูกให้ มันเอาเปรียบไงค๊ะ แต่ฝ่ายไม่เห็นชอบของอิหร่านที่มีผู้นำศาสนาชื่อคอมไมนีเกลียดชังการเอา เปรียบของสองประเทศนี้

    จึงปลุกระดมคนอิหร่านที่หัวรุนแรง ให้ลุกขึ้นมาต่อต้านพระเจ้าชายชาร์และก็ทำสำเร็จคิดว่านะคะในปี1977 เจ้าชายชาร์และครอบครัวต้องอพยพหนีมาที่อยู่กรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส

    จากนั้นเป็นต้นมาอเมริกาไม่สามารถกดขี่อิหร่านได้ต่อไป เพราะคอมไมนีประกาศเป็นสัตรูกับชาติอเมริกา จะความสองหน้าของอเมริกา อเมริกาเข้ามาตีสนิทเป็นมิตรกับอีรัก กับซัดดัม ฮุนเซ็น

    ซัดดัมซึ่งเป็นคน[xxx]มอยู่แล้วได้ทีจึงผูกมิตรด้วยตอนนั้นประเทศอีรัก ไม่ค่อยมี ศักยภาพเรื่องอาวุธ หลังจากคอมไมนีขึ้นครองอิหร่านได้ไม่นาน อิหร่านก็กร่างอยากยึดอีรักเอามาครอง จึงยกกองพลทหารของตนบุกกรุงแบกแดด

    ยึดสนามบินกรุงแบกแดดเอาเครื่องบินแจ็ดมาลงเย้ยอีรัก ฝ่ายอเมริกากลัวอิหร่านจะแผ่อำนาจในตะวันออกกลางเต้นผางส่งอาวุธไปให้ ซัดดัม จัดการกับอิหร่านให้ออกจากอิรัก

    แล้วซัดดัมก็ทำสำเร็จ อิหร่านถอยทัพกลับตั้งหมั่นในเขตแดนตน ทิ้งเครื่องบินใว้หลายลำที่สนามบินกรุงแบกแดด

    จากนั้นก็สู้รบกันต่างฝ่าย ยิงปืนครกเข้าหากันบาดเจ็บล้มตายทั้งสองฝ่าย ทางฝ่ายอิหร่านอาวุธมาจากโซเวียต และจีน และยุโรปบางส่วน

    แต่ของประเทศอีรักมาจากเจ้าพ่ออเมริกา และยุโรป ซัดดัมซุนเซ็นสั่งอาวุธพร้อมรถถังที่เมคอินเยอรมนีหลายสิบคันที่ทันสมัย พร้อมทั้งของจากอเมริกา ของยุโรป โดยใช้เครดิตบ่อเอาน้ำมันในประเทศการันตี

    ชาติต่างๆรีบเสนอขายอาวุธให้มากมาย หลังจากทำสงครามกับอิหร่านไม่มีใครแพ้ใครชนะทั้งต่างเหนื่อยล้า จึงหันหน้ามาตกลงเลิกทำสงครามต่อกัน

    หลังจากสงครามยุติลง ซัดดัม ฮุนเซ็น ในสมองมีแต่ความคิดโหดๆอยู่แล้ว จึงได้จ้างช่างเทคนิคชาวต่างประเทศหลายๆประเทศ ไม่ว่าเยอรมนี ฝรั่งเศส รัชเซีย
    หรืออเมริกา แม้แต่ญี่ปุ่น ฟิลิบปินส์ ให้มาช่วยสอน

    และแล้ว ซัดดัม ก็สร้างฐานยิงจรวด ใกล้กรุงแบกแดดนั่นแหละโดยช่างเทคนิคเป็นผู้สอน เพื่อนลุงปีเตอร์ทางบริษัทยังส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าๆออกๆในกรุงแบกแดดเป็นปี ยังไปซื้อเครื่องดูดไอน้ำที่คนมุสลิมผู้ชายเขาดูดกัน ยังเอามาให้ป้าดูแต่เป็นทองเหลือง

    เห็นบ่นว่าคนอาหรับหัวไม่ไว555จะบอกว่าโง่ก็น่าเกลียด หลังจากจ้างครูจากต่างประเทศมาฝึกสอนเป็นปีๆ แล้ว ซัดดัม ก็มีช่างเทคนิคที่เชื่อถือฝีมือของตนเองจะสร้างฐานจรวดกี่ฐานภายในประเทศก็ ได้

    หลังจากครูกลับไปหมดแล้วก็เหลือแต่ช่างอีรักล้วนๆ ซัดดัมเลยต่อท่อฐานจรวดให้ยาวขึ้นไปอีกสามารถยิงจรวดไปตกที่ประเทศอิสราเอล ได้ ซึ่งผิดกฏหมายโลกที่
    อนุญาติใว้

    แถมยังขุดอุโมงใต้ดินเก็บอาวุธสำคัญๆใว้ในอุโมงใต้ทะเลทรายอีกเป็นจำนวนมาก
    ที่ อเมริกากลัวนักกลัวหนาคืออาวุธนิวส์เคลียร์ ที่ซาดัมจะยิงไปยังอิสราเอล เนื่องจากที่นั่นนักการเมืองอิสราเอลคือคนอเมริกันยิวนั่นเอง

    ซัดดัมจอมโหดหลังจากสะสมอาวุธเต็มบ้านเต็มช่องแล้ว ก็เกิดบ้าอำนาจขึ้นมา เห็น
    ประเทศคูเวตเล็กนิดเดียวเป็นหมูให้เชือด คือทดลองอาวุธของตนว่าที่เสียเงินซื้อมานั้นประสิทธิ์ภาพเป็นอย่างไรแล้วใน ปี 1990

    ซัดดัม ฮุนเซ็นก็สั่งทหารของตนซึ่งมีจำนวนแสนคน บุกคูเวตสำเร็จอย่างง่ายดาย
    ทหารอีรักหลังจากบุกยึดคูเวตทั้งประเทศอยู่ ในมือ พวกทหารป่าเถื่อนเหล่านี้ ก็ข่มขืนชำเราผู้หญิงคูเวตด้วยความหื่กระหายกามแล้วฆ่าทิ้ง

    ทุกหนทุกแห่งมีแต่ซากศพคนคูเวตโดนฆ่าตาย เห็นสภาพในจอทีวีแล้วน่าสงสาร จากนั้นอเมริกาและชาติพันธมิตรได้ประกาศให้ ซัดดัม ฮุนเซ็น ถอนทหารออกจากคูเวตหากไม่กระทำตามที่สั่งนี้ อเมริกาและชาติพันธมิตรจะทำการบุกอีรัก

    ซัดดัม ยืนกรานกระต่ายขาเดียวว่า ไม่ ไม่ ผู้นำรัชเซียมาเกลี่ยกล่อมก็ไม่เป็นผลสำเร็จถูกซัดดัมตอกหน้ากลับไปทุกคน และแล้วคืนที่ทหารชาติพันธมิตรถล่มกรุง
    แบกแดด

    โอ้โห..เล่าแล้วขนลุก เพราะทีวีในยุโรปถ่ายทอดตลอด24 ชั่วโมงนักข่าวเป็นหมื่นทั่วโลก ไปที่นั่น ชาติใหญ่ๆเช่น อเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี่ สเปนฯ
    เนเธอร์แลนด์ เดนมารค์ สวีเดน ฟินแลนด์ นอร์เวย์
    ออ อสเตรเลีย แคนาดา เบลเยี่ยม ลักแซมบรวก

    และอีกมากมาย ไปถล่มอีรักประเทศเดียว ไปถล่มอาวุธของตัวเองที่ขายให้อีรัก 555 ทุเรศ****** หากอเมริกาชาติเดียวไม่มีน้ำยาเอาชนะอีรีกได้ ดังนั้นจะเห็นได้ในสงครามเวียดนาม

    อเมริกากร่างใหญ่แต่ถ้าไม่มี หน่วย <<นาโต้>>ไปช่วย ก็แพ้สงคราม จะเห็นจากที่ไปบุกอัฟกานิสถาน ใช้ นาโต้ อีกเช่นกันที่ช่วย จนสุดท้ายไปบุกอีรักคราวหลังนี่ ยุโรปประกาศออกมาเลยว่าพอแล้ว

    หากจะทำสงครามกับอีรักอีกเชิญทำคนเดียว อียู ไม่ขอเข้าร่วมด้วย ดังนั้นอเมริกาจึงหาประเทศที่เคยเป็นเมืองขึ้นของรัชเซียเช่น Poland Romania Bulgaria Hungary Albania Slovakia Czech และประเทศแถบ Black Sea โดยเอาเงินกว้านซื้อทหารเหล่านี้ไปช่วยรบในอีรักร่วมกับทหารอเมริกัน และอังกฤษ

    สองชาตินี้เขาคู่แฝดกัน อียูไม่ร่วม มีประเทศอังกฤษชาติเดียวที่ช่วย ทำไมอียูจึงไม่ช่วยอเมริกาตีอีรักครั้งหลังนี้ เพราะ จอร์ช บู๊ท มีแผนจะฮุบบ่อน้ำมันของอีรักไง

    นี่คือผลประโยชน์ของอเมริกา แล้วทำไมอเมริกาจึงไม่บุกเกาหลีเหนือละทั้งที่ท้าอเมริกาเหย๊งๆ ก็เพราะเกาหลีเหนือไม่มีอะไรให้อเมริกาฮุบได้ไง

    ชาติมหาอำนาจต้องตักตวงผลประโยชน์จากชาติเล็กๆ เราจึงเห็นมือของอเมริกายื่นแทรกแซงภายในของประเทศนั้นๆ แม้แต่ในไทยแลนด์



    ปล. บทความเหล่านี้ผมได้มาจากเวปแห่งหนึ่ง แ่ต่ผมไม่ขอลงไว้ ณ ที่นี้ เพราะเวปเป็นเวปที่เข้าถึงเฉพาะคนบางกลุ่ม เสื้อบางสี เพราะฉะนั้น ผมไม่อยากให้เกิดการแตกแยก จึงไม่ขอลงเครดิตนะครับ ใครอยากได้ ให้ PM มาขอเองนะครับ
    ปล2. ผมใจเป็นกลางนะครับ ไม่มีเสื้อสีไหนแต่อย่างใด ที่เข้าไปดูก็เพื่อหาข้อมูลต่างๆเท่านั้น เรื่องไหนน่ารู้ก็เอามาฝากกัน
    ปล3. โปรด! ได้โปรด! ขอร้อง! อย่าโยงการเมือง

  2. รายชื่อสมาชิกจำนวน 18 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  3. #2
    รักแฟนเป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Udon Thani
    กระทู้
    749
    กล่าวขอบคุณ
    1,340
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,934
    อิร่านอยู๋ส่วนไหนของโลกคร้าบบบ....

  4. #3
    Man Of Steel
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    DC Comics
    กระทู้
    637
    กล่าวขอบคุณ
    1,369
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,603
    มันก็จริงน่ะ แต่ขอบอกว่า อเมริกาลึกๆอะมีความดีจริงๆ บางคนเท่านั้นที่มันคิดครับ ก็เหมือนคนไทยล่ะที่มีชื่อสมัยก่อนไว้ว่า สยามเมืองยิ้ม อะครับ จริงๆมันก็บางคนล่ะมันไม่ยิ้มทุกๆคนหรอกจริงไหม ^^ จงอย่ามองเราอย่างนี้ถ้าคุณไม่ใช่อเมริกาครับผม

    อีกอย่างผมอยากบอกว่า บางอย่างมันใช้อเมริกาปิดหน้าไว้เฉยๆ นี้ผมคงเอามาพูดได้ใช่ไหม ง่ายๆเลย ผมถูกเก็บก็ขอให้ฟังกันไว้นะ ^^ Illuminati คำเดียวครับ ................... เขาแค่รอเวลา โดยใช้อเมริกาเพียงบังหน้า ถึงเวลาแล้วทุกอย่างทุกความจริงจะปรากฏ
    เคยมีคนกลุ่มหนึ่ง เคยคิดว่า 9/11 มันแปลกๆ ในปี 2001 วัน 9/11 นั้นน่ะ คนในของวอชิงตัน จะว่ามีพลังรู้อนาคตก็ไม่น่าใช่ เพราะคนๆนี้ สั่งกองทัพอากาศ ก่อนเวลาเครื่องบินเข้าชน ถึงเกือบๆ 2 ชั่วโมง แต่กลับสั่งให้ บินรอบนอก ในย่านนิวยอกร์เหนืออยู่ พยานรู้เห็น
    เป็น 100 เพราะเครื่องบินไปมา นานมาก ก่อนทีวี ทุกช่อง จะรายงานว่ามีเครื่องบินชนตึก จากนั้นกองทัพก็ได้รับคำสั่งจากคนในคนหนึ่งให้บินไปทาง เพนตากอน นักบินเหล่านี้ยังเป็นพยานให้ได้ ก่อน เพนตากอน จะถูกชนในเวลาต่อมา 5 นาทีกองทัพสั่งเครื่อง ลาดตะเวนบินไปมารอบๆเพื่อป้องกันเหตุการณ์ ทั้งๆที ตอนเครื่องยังไม่ชน ยังอยู่นอกเขตประเทศอยู่แต่ทำไม คนในของวอชิงตันรู้ และสั่งเครื่องบินให้บินนอกๆไว้ก่อนและบอกว่าให้ลาดตะเวนไปก่อนพร้อมยังสั่งไม่ให้บินเข้าเขต แมนฮันตัน หรือตัวเมืองวอชิงตันแต่อย่างใด...........

    อีกอย่างนะครับผม ที่กลุ่มก่อการร้ายออกมาประกาศว่า พวกเขาเป็นคนทำนั้น มันไม่ได้หมายความว่า บินลาเดนเป็นคนสั่ง แต่ เช้าตรู่วันนั้น มีคนติดต่อกับคนในกลุ่มและบอกว่าเขาจะทำอะไรที่จะทำให้อเมริกาเสียหาย และคนที่ติดต่อก็ไม่ยอมบอกว่าใครแต่บอกว่าอยู่พวกเดียวกัน จนในที่สุดทางกลุ่มก่อการร้ายรู้ข่าว ก็ออกมาประกาศว่ากลุ่มเขาเป็นคนทำ .......... โดยรวมๆ สามารถ สังเกตได้ว่าเหตุการณ์มันมีคนอยู่ข้างหลัง ........ และต่อจากนั้น 1 วัน คนๆหนึ่งในวอชิงตันให้ข้อมูลแก่รัฐบาลว่าเจอที่มั่นแล้ว ของกลุ่มก่อการร้ายแล้ว...
    แต่สิ่งที่แปลกคือ บริเวณนั้นในสมัยนั้นยังไม่มีเทคโนโลยีจะมองทะลุภูเขาเข้าไปได้ แถมวันที่โดนชนตึกกองทัพก็ไม่ได้ถูกสั่งให้หา ที่มั่นก่อการร้ายในทันที เช่นกัน แต่คนวองชิงกับรู้ที่มั่นในหลายๆ จุด..... ชั่งไปเถอะครับ ^^ ยาวซะเอาเป็นว่าอย่ามองอเมริกาอย่างนั้นเลย

  5. รายชื่อสมาชิกจำนวน 4 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  6. #4
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    74
    กล่าวขอบคุณ
    1
    ได้รับคำขอบคุณ: 44
    โปรดใช้วิจารณญาณ ในการอ่าน



    เบื้องหลัง9/11กับทฤษฎีสมคบคิด



    คงไม่มีทฤษฎีไหนน่าตกใจเท่ากับทฤษฎีที่ว่า แท้จริงแล้วรัฐบาลจอร์จ ดับเบิลยู. บุช อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้

    โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

    รถแท็กซี่สีเหลืองอันเลื่องชื่อของนิวยอร์กคันหนึ่งกำลังวิ่งอยู่บนท้อง ถนนของแมนฮัตตันอย่างช้าๆ ฝ่าการจราจรที่ติดขัดเป็นประจำในช่วงเวลารีบเร่งในมหานครแห่งนี้

    ภายในรถดังกล่าว อลิซ โดโนแวน นักธุรกิจหญิงวัย 52 ปี ผู้ซึ่งเกิดและเติบโตในนิวยอร์ก หรือเรียกได้ว่าเป็น “นิวยอร์กเกอร์” อย่างแท้จริงนั้น กำลังส่งข้อความหาลูกค้าบนโทรศัพท์แบล็คเบอร์รี่

    นี่คือกิจวัตรประจำวันของโดโนแวน ทุกเช้าเธอจะขึ้นแท็กซี่จากบ้านพักเพื่อเดินทางไปยังที่ทำงานซึ่งอยู่บริเวณ ฟิฟท์อะเวนิว ย่านธุรกิจชื่อดังของโลก และทุกวันโดโนแวนก็จะยุ่งอยู่กับการส่งข้อความหาลูกค้าจนแทบไม่มีเวลาได้ นั่งพักชมบรรยากาศช่วงเช้าจากรถแท็กซี่เลย

    อย่างไรก็ตาม เมื่อรถได้เลี้ยวเข้าสู่ถนนลิเบอร์ตี โดโนแวนก็หยุดกิจกรรมนี้ทันที และหันไปมองนอกกระจกพร้อมกับถอนหายใจ ใครที่กำลังเดินอยู่ตามท้องถนนก็จะสามารถเห็นน้ำตาที่ค่อยๆ ไหลรินบนใบหน้าของผู้หญิงคนนี้

    “ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ฉันนั่งรถผ่านถนนลิเบอร์ตีแล้วไม่เสียน้ำตา” โดโนแวนกล่าว ทั้งนี้เป็นเพราะถนนลิเบอร์ตีนั้นเป็นสถานที่ตั้งของอาคารเวิลด์เทรด อาคารแฝดซึ่งถล่มเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 ภายหลังถูกเครื่องบินโดยสาร 2 ลำ พุ่งชน

    แม้เวลาจะผ่านมา 10 ปี แต่ก็ไม่มีใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวนิวยอร์ก สามารถลืมเหตุวินาศกรรม 11 ก.ย. ได้ลง เพราะเหตุการณ์สะท้านโลกครั้งนั้นได้ทิ้งรอยแผล|ที่บาดลึกลงในจิตใจของ ชาวอเมริกันทุกคน

    ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน ในช่วงเช้าของวันที่ 11 ก.ย. โดโนแวนกำลังแวะซื้อกาแฟใกล้ที่ทำงาน ก่อนที่จะได้ยินเสียงดังลั่น

    เสียงที่ดังกึกก้องไปทั่วเกาะแมนฮัตตันนั้น คือเสียงของเครื่องบินโดยสารสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส ขณะพุ่งชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 1 ระหว่างชั้นที่ 94 ถึง 98 โดยวินาทีนั้นไม่มีใครรู้เลยว่า นี่คือการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ จนกระทั่ง 1 นาทีต่อมา เครื่องบินลำที่สองก็พุ่งชนอาคารเวิลด์เทรด 2 และเป็นที่แน่ชัดว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ได้เป็นอุบัติเหตุอย่างแน่นอน

    ภาพเหตุการณ์เครื่องบิน 2 ลำพุ่งชนตึกแฝด ก่อนที่ตึกทั้งสองหลังจะถล่มลงมาต่อหน้าต่อตาในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ตรึงผู้คนทั่วโลกให้อยู่หน้าจอโทรทัศน์ โดยไม่อาจเชื่อในสิ่งที่เห็น โลกก็ยิ่งตกตะลึงยิ่งกว่าเมื่อทราบว่ามีการจี้เครื่องบินอีก 2 ลำ โดยลำหนึ่งได้พุ่งชนอาคารเพนตากอน ในรัฐเวอร์จิเนีย ส่วนอีกลำตกลงบนทุ่งหญ้าในรัฐเพนซิลเวเนีย

    เกือบ 3,000 ชีวิตต้องสังเวยในเหตุก่อการร้ายครั้งร้ายแรงที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในประวัติ ศาสตร์โลก และทุกคนก็ทราบดีว่า นับตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ทุกอย่างก็จะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม

    “ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียอะไรมากมายขนาดนี้ภายในไม่กี่ ชั่วโมง” โดโนแวน กล่าว โดยเธอนั้นสูญเสียญาติและเพื่อนทั้งหมด 5 คน จากเหตุโจมตีครั้งนี้

    อย่างไรก็ตาม โดโนแวนก็ไม่ใช่คนเดียวที่มีความรู้สึกโศกเศร้าทุกครั้งที่นึกถึงวันที่ 11 ก.ย. เพราะการสำรวจล่าสุดชี้ให้เห็นว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่นั้นยังคงทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ในวันนั้น

    ทุกครั้งที่ชาวนิวยอร์กได้ยินเสียงเครื่องบิน ทุกครั้งที่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน หรือแม้แต่อุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ อย่างเหตุไฟดับทั่วเมือง ผู้คนก็จะรู้สึกหวาดกลัวทันที

    “ความทรงจำในวันนั้นยังคงหลอกหลอนฉัน และฉันก็จะคิดอยู่เสมอว่า เราอาจถูกโจมตีได้ทุกเมื่อ” ลิซา ชมิตท์ ชาวนิวยอร์กรายหนึ่ง กล่าว

    ทั้งนี้ แม้คนทั่วไปจะเชื่อว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ในวันนั้นคือ กลุ่มอัลกออิดะห์ กลุ่มก่อการร้ายศัตรูหมายเลข 1 ของสหรัฐ แต่นับตั้งแต่เกิดเหตุ 11 ก.ย. 2544 ก็มีทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดผุดขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีที่ว่าสายลับอิสราเอลเป็นผู้ก่อเหตุอย่างแท้จริง หรือทฤษฎีที่ระบุว่า เหตุ 11 ก.ย. เป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายอีกกลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มอัลกออิดะห์

    ทว่า คงไม่มีทฤษฎีไหนโด่งดังและน่าตกใจเท่ากับทฤษฎีที่ว่า แท้จริงแล้วรัฐบาลของจอร์จ ดับเบิลยู. บุช เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์สะท้านโลกครั้งนี้นั่นเอง

    ทฤษฎีดังกล่าว ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐทราบล่วงหน้านานหลายเดือนว่า กลุ่มอัลกออิดะห์ได้วางแผนจี้เครื่องบินโดยสาร 4 ลำเพื่อเข้าพุ่งชนสถานที่สำคัญ แต่แทนที่จะเตือนภัยและป้องกันเหตุครั้งนี้ รัฐบาลกลับสั่งให้มีการวางระเบิดภายในอาคารเวิลด์เทรดเพื่อให้มั่นใจว่า อาคารแฝดอันโด่งดังนั้นจะถล่มอย่างแน่นอน

    ทั้งนี้ หลายฝ่ายเชื่อว่าสาเหตุที่บุชต้องการให้แผนโจมตีสหรัฐครั้งนี้สำเร็จลุล่วง ก็เพื่อที่จะได้มีข้ออ้างในการบุกอิรัก และยึดครองทรัพยากรสำคัญซึ่งก็คือ น้ำมัน อีกทั้งบางคนยังเชื่อว่า อดีตประธานาธิบดีอาจพยายามตั้งรัฐบาลอิรักที่อยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐ ซึ่งจะนำไปสู่การครอบครองชาติอาหรับในอนาคต

    อาจเป็นข้อกล่าวหาที่เหลือเชื่อ แต่ทฤษฎีนี้ก็ไม่ได้เป็นแค่ทฤษฎีลอยๆ เพราะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีการนำเสนอหลักฐานมากมายเพื่อสนับสนุนทฤษฎีนี้ ภาพยนตร์เรื่อง “Loose Change” ภาพยนตร์สารคดีที่กำกับโดย ไดแอน เอเวอร์รี เมื่อปี 2548 ก็นับว่าเป็นแหล่งรวมข้อมูลที่ครบถ้วนเลยทีเดียว

    ในสารคดีเรื่องนี้ ผู้กำกับได้รวบรวมบทสัมภาษณ์และข้อมูลข่าวสารมากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ 11 ก.ย. โดยสามารถสรุปเป็น “ข้อสังเกต” หรือข้อสงสัยต่างๆ ได้ดังต่อไปนี้

    ข้อสังเกตประการแรกก็คือ อาคารแฝดเวิลด์เทรดนั้นไม่สามารถถล่มลงมาได้เพียงเพราะถูกเครื่องบินพุ่งชน เท่านั้น อีกทั้งสิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ การถล่มของอาคารนั้นเป็นการถล่มในแนวตั้งคล้ายกับการถล่มที่เกิดขึ้นเวลามี การวางระเบิดอาคารเพื่อทุบทำลาย โดยหลายคนนั้นมองว่า ลักษณะการถล่มของตัวอาคารทั้งสองนั้นค่อนข้าง “เรียบร้อย” มากกว่าที่จะสร้างความเสียหายให้กับอาคารรอบข้างซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า อาจมีการวางระเบิดตัวอาคารเพื่อให้มีการถล่มง่ายขึ้น

    ข้อสังเกตที่ 2 คือ ทาวเวอร์ 7 ของอาคารเวิลด์เทรดนั้นเกิดถล่มอย่างรวดเร็วจนน่าประหลาด แม้ไม่ได้ถูกโจมตีด้วยเครื่องบินใดๆ เลย

    ข้อสังเกตที่ 3 คือ มีบางคนทราบล่วงหน้าว่าจะเกิดการโจมตีเนื่องจากในวันที่ 10 ก.ย. นั้นมีการซื้อขายหุ้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวินาศกรรมครั้งนี้ในตลาดหุ้น วอลสตรีต หรือกล่าวอีกอย่างก็คือ มีกลุ่ม|คนที่ทราบว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นจึงได้ตัดสินใจเก็งกำไรหุ้น

    ข้อสังเกตที่ 4
    คือ มีกระแสข่าวว่า เครื่องบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ 77 ไม่ได้พุ่งเข้าชนอาคารเพนตากอนอย่างที่หลายคนคิด แต่ขีปนาวุธของสหรัฐต่างหากที่ได้พุ่งชนอาคารเพนตากอน “ถ้าเครื่องบินชนเพนตากอนจริงแล้วซากเครื่องอยู่ที่ไหน” ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าว โดยมองว่าสื่อนั้นไม่เคยนำเสนอข่าวการกู้ซากเครื่องบินหรือผลการตรวจ สอบกล่องดำเลย

    “เป็นไปไม่ได้ที่เครื่องบินลำนึงจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย”

    นอกจากนี้ อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยังไม่ปักใจเชื่อว่า กลุ่มก่อการร้ายมุสลิมจะสามารถดำเนินตามแผนการได้โดยไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ เนื่องจากการโจมตีลักษณะนี้ต้องอาศัยการวางแผนอย่างรอบ คอบและแยบยลเป็นเลิศสุดที่จะหาคำบรรยายได้

    ทั้งนี้ มีชาวอเมริกันไม่น้อยเลยที่เชื่อทฤษฎีนี้ โดยจากผลสำรวจความคิดเห็นของสคริปส์ ฮาเวิร์ด เมื่อปี 2549 พบว่า 36% ของชาวอเมริกันเชื่อว่ารัฐบาลอเมริกันมีส่วนรู้เห็นกับเหตุ 9/11 “คนที่โง่คือคนที่เชื่อคำกล่าวอ้างของรัฐบาลต่างหาก” เดวิด เรย์ กริฟฟิน นักเขียนรายหนึ่งกล่าว กระทั่งเวลาผ่านไป 1 ทศวรรษ ผู้ที่เชื่อในทฤษฎีสมคบคิดก็ยังมีอยู่มากและมีอิทธิพลไม่ใช่น้อยในสหรัฐ

    ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่ชาวอเมริกันเชื่อในทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร โดย เคที โอล์มสเต็ด อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส นั้นมองว่า ทุกวันนี้ชาวอเมริกันก็ทราบดีว่า ที่ผ่านมานั้นบุชได้เคยโกหกประชาชนมามากเพียงใด

    ทุกคนรู้ว่ารัฐบาลของบุชได้พยายามสร้างภาพ ซัดดัม ฮุสเซน อดีตผู้นำเผด็จการของอิรัก ให้เป็นบุคคลที่น่ากลัวด้วยการโกหกว่า ฮุสเซนนั้นมีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในครอบครองและจะใช้มันโจมตีสหรัฐ จนชาวอเมริกันนั้นหวาดกลัวและสุดท้ายก็เห็นชอบกับปฏิบัติการบุกอิรัก

    “ถ้าบุชบิดเบือนความจริงในขณะนั้น แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า บุชไม่ได้โกหกเกี่ยวกับเหตุการณ์ 11 ก.ย.” โอล์มสเต็ด กล่าว

    ขณะเดียวกันก็มีนักวิเคราะห์อีกกลุ่มมองว่า ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดเหล่านี้เป็นเพียงเครื่องมือที่ชาวอเมริกันใช้ในการรับมือ กับความโศกเศร้าและความรู้สึกตกตะลึงหวาดกลัวจากเหตุการณ์ในวันนั้น “ชาวอเมริกันไม่อยากจะเชื่อและบางคนนั้นก็ถึงขั้นไม่อาจยอมรับได้ว่า ชายมุสลิม 19 คน ที่มีเพียงมีดคัตเตอร์ จะสามารถสร้างความเสียหายและฆ่าผู้คนได้มากมายขนาดนี้” ริช แฮนด์ลีย์ อาจารย์ทางด้านสื่อสารมวลชนจากมหาวิทยาลัยคินนิพีค กล่าว โดยมองว่าการเชื่อทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดเหล่านี้ก็เป็นเพียงการโกหกตัวเอง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความเศร้าโศก

    ดังนั้น แฮนด์ลีย์จึงมองว่า การมัวแต่นั่งถกเถียงกันว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็เป็นเรื่องที่ไร้สาระและเสียเวลาอย่างยิ่ง เพราะสุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 11 ก.ย. 2544 และไม่มีใครสามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขความผิดพลาดใด แต่ความจริงที่ปรากฏเด่นชัดก็คือ ความสูญเสียที่มากเกินคำบรรยาย

    ในวันนี้ประชาคมโลกจะคอยเฝ้าดูการรำลึก 10 ปี ของเหตุ 11 ก.ย. และเชื่อว่าทุกคนก็จะเป็นกำลังใจให้ชาวอเมริกันอยู่เสมอและหวังว่า 10 ปีที่ผ่านมานี้ จะช่วยให้พวกเขาสามารถก้าวเดินได้ต่อไป



    เครดิต :http://m.posttoday.com

  7. รายชื่อสมาชิกจำนวน 4 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  8. #5
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Udonthani
    กระทู้
    1,266
    กล่าวขอบคุณ
    497
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,354
    Blog Entries
    2
    มันเป็น "ทฤษฎี" ที่ยังหาข้อพิศูจไมได้ ดังนั้นใคร จะอ่านก็ ก็ใช้ ใช้วิจารณญาณ ด้วยนะครับเรื่องพวกนี้มัรค่อนข้างละเอียดอ่อน - -

  9. #6
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    กระทู้
    160
    กล่าวขอบคุณ
    97
    ได้รับคำขอบคุณ: 47
    เรื่องแบบนี้มั่วนิ่มเยอะแยะ โดยเฉพาะทฤษฏีของคนไทยนี้ไม่น่าเชื่อซะส่วนมาก

    จะทำอะไรยังไงก็ช่าง แต่ผมสงสารสุดคือ ประชาชน และ ทหาร ที่ต้องตาย ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเข่นฆ่ากันเพื่ออะไร


    พวกนักวิชาการที่ว่ายังโง้นยังงี้รู้นั้นรู้นี้เนี้ยได้ไปร่วมตายกับเขารึเปล่า เรื่องทฤษฏีพวกนี้เป็นเรื่องไร้สาระสำหรับคนที่ต้องเผชิญหน้ากับความตาย
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย shiningg : 15th September 2011 เมื่อ 23:29

  10. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  11. #7
    Apple` Addict 
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Home ^^
    กระทู้
    526
    กล่าวขอบคุณ
    1,073
    ได้รับคำขอบคุณ: 485
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ shiningg อ่านกระทู้
    เรื่องแบบนี้มั่วนิ่มเยอะแยะ โดยเฉพาะทฤษฏีของคนไทยนี้ไม่น่าเชื่อซะส่วนมาก

    จะทำอะไรยังไงก็ช่าง แต่ผมสงสารสุดคือ ประชาชน และ ทหาร ที่ต้องตาย ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเข่นฆ่ากันเพื่ออะไร


    พวกนักวิชาการที่ว่ายังโง้นยังงี้รู้นั้นรู้นี้เนี้ยได้ไปร่วมตายกับเขารึเปล่า เรื่องทฤษฏีพวกนี้เป็นเรื่องไร้สาระสำหรับคนที่ต้องเผชิญหน้ากับความตาย
    พวกเขาบางคนอาจจะได้ไปเผชิญมา หรืออยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้นๆ แต่ทว่า เขาได้รอดกลับมมาและเกิดความสงสัยในเหตุการณ์ที่เขาได้เคยประสบ ไงครับ
    เลยรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อมาทำเป็นทฤษฏีสมคบคิด หาพวกพ้องที่เห็นด้วยและอาจจะดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ผู้เสียชีวิต หรือผู้ประสบโชคร้าย ในคราวต่อไปก็ได้ครับ
    อย่าว่าๆ ไร้สาระ ศึกษาให้ดีเสียก่อน เรื่องแบบนี้ ไม่เจอก็ไม่รู้หรอกครับ ได้เป็นแค่ผู้อ่าน วิจารณญาณแต่ล่ะคนมันต่างกันครับ

  12. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  13. #8
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    237
    กล่าวขอบคุณ
    69
    ได้รับคำขอบคุณ: 45
    เขาถึงมีสุภาสิษ ไง มีไอ้กันที่ไหนจิบหายที่นั้น

  14. #9
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,440
    กล่าวขอบคุณ
    5
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,811
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ folk20310 อ่านกระทู้
    มันก็จริงน่ะ แต่ขอบอกว่า อเมริกาลึกๆอะมีความดีจริงๆ บางคนเท่านั้นที่มันคิดครับ ก็เหมือนคนไทยล่ะที่มีชื่อสมัยก่อนไว้ว่า สยามเมืองยิ้ม อะครับ จริงๆมันก็บางคนล่ะมันไม่ยิ้มทุกๆคนหรอกจริงไหม ^^ จงอย่ามองเราอย่างนี้ถ้าคุณไม่ใช่อเมริกาครับผม

    อีกอย่างผมอยากบอกว่า บางอย่างมันใช้อเมริกาปิดหน้าไว้เฉยๆ นี้ผมคงเอามาพูดได้ใช่ไหม ง่ายๆเลย ผมถูกเก็บก็ขอให้ฟังกันไว้นะ ^^ Illuminati คำเดียวครับ ................... เขาแค่รอเวลา โดยใช้อเมริกาเพียงบังหน้า ถึงเวลาแล้วทุกอย่างทุกความจริงจะปรากฏ
    เคยมีคนกลุ่มหนึ่ง เคยคิดว่า 9/11 มันแปลกๆ ในปี 2001 วัน 9/11 นั้นน่ะ คนในของวอชิงตัน จะว่ามีพลังรู้อนาคตก็ไม่น่าใช่ เพราะคนๆนี้ สั่งกองทัพอากาศ ก่อนเวลาเครื่องบินเข้าชน ถึงเกือบๆ 2 ชั่วโมง แต่กลับสั่งให้ บินรอบนอก ในย่านนิวยอกร์เหนืออยู่ พยานรู้เห็น
    เป็น 100 เพราะเครื่องบินไปมา นานมาก ก่อนทีวี ทุกช่อง จะรายงานว่ามีเครื่องบินชนตึก จากนั้นกองทัพก็ได้รับคำสั่งจากคนในคนหนึ่งให้บินไปทาง เพนตากอน นักบินเหล่านี้ยังเป็นพยานให้ได้ ก่อน เพนตากอน จะถูกชนในเวลาต่อมา 5 นาทีกองทัพสั่งเครื่อง ลาดตะเวนบินไปมารอบๆเพื่อป้องกันเหตุการณ์ ทั้งๆที ตอนเครื่องยังไม่ชน ยังอยู่นอกเขตประเทศอยู่แต่ทำไม คนในของวอชิงตันรู้ และสั่งเครื่องบินให้บินนอกๆไว้ก่อนและบอกว่าให้ลาดตะเวนไปก่อนพร้อมยังสั่งไม่ให้บินเข้าเขต แมนฮันตัน หรือตัวเมืองวอชิงตันแต่อย่างใด...........

    อีกอย่างนะครับผม ที่กลุ่มก่อการร้ายออกมาประกาศว่า พวกเขาเป็นคนทำนั้น มันไม่ได้หมายความว่า บินลาเดนเป็นคนสั่ง แต่ เช้าตรู่วันนั้น มีคนติดต่อกับคนในกลุ่มและบอกว่าเขาจะทำอะไรที่จะทำให้อเมริกาเสียหาย และคนที่ติดต่อก็ไม่ยอมบอกว่าใครแต่บอกว่าอยู่พวกเดียวกัน จนในที่สุดทางกลุ่มก่อการร้ายรู้ข่าว ก็ออกมาประกาศว่ากลุ่มเขาเป็นคนทำ .......... โดยรวมๆ สามารถ สังเกตได้ว่าเหตุการณ์มันมีคนอยู่ข้างหลัง ........ และต่อจากนั้น 1 วัน คนๆหนึ่งในวอชิงตันให้ข้อมูลแก่รัฐบาลว่าเจอที่มั่นแล้ว ของกลุ่มก่อการร้ายแล้ว...
    แต่สิ่งที่แปลกคือ บริเวณนั้นในสมัยนั้นยังไม่มีเทคโนโลยีจะมองทะลุภูเขาเข้าไปได้ แถมวันที่โดนชนตึกกองทัพก็ไม่ได้ถูกสั่งให้หา ที่มั่นก่อการร้ายในทันที เช่นกัน แต่คนวองชิงกับรู้ที่มั่นในหลายๆ จุด..... ชั่งไปเถอะครับ ^^ ยาวซะเอาเป็นว่าอย่ามองอเมริกาอย่างนั้นเลย
    ความจริงแล้วประชาชนชาวอเมริกันน่ารักออก แต่รัฐบาลซิในสมองมีแต่สงคราม
    สงคราม เพราะหากไม่ทำสงคราม อเมริกาขายอาวุธไม่ได้ ความอยู่รอดของ
    อเมริกาอยู่ได้เพราะขายอาวุธ คุณRedRouge ไปทำงานที่ฝรั่งเศส เคยเห็น
    รถอเมริกาวิ่งบนถนนไหม? 555 หาไม่เจอสักคัน มีแต่รถยุโรปและญี่ปุ่นวิ่ง
    บนถนน จอมลวงโลกคือนักการเมือง คนอเมริกันเองหวานอมขมกลืนเช่นใน
    ประเทศไทย แต่คนอเมริกัน ก็บ้าีดีเดือดอีตอนเลือกตั้ง จอร์ช บุช *****ก็ยัง
    เลือกให้ขึ้นมาเป็นประธานาธิปดีต่อ 555 คนในยุโรปเขาด่ากันตรึม หลังจาก
    ชนะเลือกตั้ง พร่อง ทำสงคราม กับ อัลไกดา อัฟกานิสถาน และ อีรักต่อ คาวบอย
    จอร์ช บุช หัวมีแต่สงคราม คุณ RedRouge ทราบไหม ว่า จอร์ช บุช ทำไม
    จึงทำสงครามที่อัฟนิสถาน ก็เพราะ จอร์ช บุช คิดการ
    ไกล พร่องต้องการน้ำมันจากประเทศ Azerbaijan เพราะทะเลดำมีน้ำมัน ที่
    เมืองหลวงของ Azerbaijan Bakuแหล่งน้ำมันเลยละ อีกประเทศหนึ่งคือ
    Turkmenistan จอร์ช บุช วางแผนต่อท่อก๊าสผ่าน อัฟกานิสถาน ผ่าน ปากีสถาน
    แล้วมาลงยังอ่าวเปอร์เซีย



    เพราะเหตุใดชาติมหาอำนาจสหรัฐอเมริกาจึงกลัวยุโรป

    เพราะเหตุใดชาติมหาอำนาจสหรัฐอเมริกาจึงกลัวยุโรป??
    หลังจากที่ประเทศรัช เซียได้ปลดแอกจากการใช้ระบบคอมมูนิตย์แล้ว ประเทศต่างๆที่รัชเซียควบคุมในระบบคอมมูนิตย์ที่อยู่รอบประเทศรัชเซียก็เป็น อิสระ

    สามารถที่จะไปใหนต่อใหนได้ตามระบบประชาธิปไตย รัชเซียไม่สามารถเข้ามามีบทบาทประเทศนั้นๆได้อีกต่อไป ดังนั้นชาติต่างๆจึงตาสว่างได้เห็นความสวยงามของโลกภายนอก

    ที่ไม่ ใช่ระบบปิดหูปิดตาเช่นระบบคอมมูนิตย์ คนที่มีอันจะกินเดินทางเข้าออกชาติที่อยู่ในเครือยุโรปที่ปกครองด้วยระบบ ประชาธิปไตยอิสระเสรี ชาติเหล่านั้นเลยแข็งข้อกับรัชเซียไม่ขออยู่ใต้เท้ารัชเซียอีกต่อไป จึงหันมาสนใจระบบที่ยุโรปปกครอง

    และต่างอยากที่จะเข้าร่วมกลุ่มเป็น EU ด้วย ดังนั้นทำให้อเมริกาหวาดระแวงอำนาจของตน หาก อียู รวบรวมชาติต่างๆใว้ในอำนาจ ชาติมหาอำนาจไม่อาจที่จะแผ่ขยายอิทธิพลของตนให้กว้างต่อไปได้ ชาติมหาอำนาจไม่ค่อยพอใจนักแต่ก็ไม่กล้าที่จะคัดค้าน

    เพราะ อียู เองก็รู้ดีแต่ก็ทำเป็นเฉยแบบนิ่งดูกิริยาของชาติมหาอำนาจ ว่าจะออกอาการอะไร ยังมีชาติเล็กชาติน้อยอีกจำนวนมากยื่นขอเข้าร่วมเป็น อียู แต่ อียู ก็ต้องตรวจสอบพฤติการณ์ของแต่ละชาติว่าเศรษฐกิจประเทศนั้นๆเป็นอย่างไร ไม่ใช่ติดหนี้มากมายแล้วพอเข้ามาอยู่ในเครือข่าย อียู แล้ว อียู ต้องช่วยใช้หนี้ให้ ตอนนี้มีแค่
    27 ประเทศที่อยู่ในเครือข่าย อียู ดังนี้
    1 Germany 2 England 3 Italy 4 France 5 Spain 6 Belgiun 7 Greece
    8 Irland 9 Denmark 10 Sweden 11Luzemburg 12 Bulgaria 14 Czech
    15 Slovakia 16 Netherlands 17 Finland 18 Portugal 19 Hungary
    20 Romania 21 Lithunia 22 Poland 23 Estonia 24 Austria 25 Malta
    26 Cyprus 27 Slovenia
    ด้วย สาเหตุนี้ชาติมหาอำนาจจึงหนาวๆร้อนๆ เรื่องเศรษฐกิจชาติกลุ่ม อียู ที่จะเติบโตก้าวหน้าเหนืออเมริกาซึ่งมีแค่ชาติเดียวซึ่งไม่ได้มาจากชาติ อื่นๆหนุนเหมือน อียู

    เพราะ อียู ตอนนี้รวมแล้วทุกชาติที่อยู่ในเครือข่ายเศรษฐกิจสามารถเอามาปะช่องที่ชำรุด ที่ชาติใดมีปัญหา เหมือนเช่นประเทศกรีก ประเทศไอซ์แลนด์ รวมทั้งประเทศสเปนฯ และก็ประเทศโปร์ตุเกตอีกประเทศหนึ่งที่ร่อแร่เช่นกัน ด้วยเหตุนี้อเมริกาจึงต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อให้ชาติที่เคยเป็นเครือ ข่ายของรัชเซียมาก่อนเชื่อถือ

    ขั้นแรกเมื่อสงครามอีรักครั้งหลังนี่ อเมริกาได้หว่านเงินจ้างทหารชาติต่างๆเหล่านี้ไปรบในอีรัก และใช้ประเทศเหล่านี้เป็นฐานทัพนำเครื่องบินรบขึ้นลงไปทิ้งระเบิดที่อีรัก

    เนื่อง จากชาติใหญ่ๆในยุโรปไม่เล่นด้วย นี่คือผลประโยชน์ที่อเมริกาฉกฉวยหวังจะเอาประเทศที่ยังไม่รู้จักอเมริกาดีมา เป็นเครื่องมือ ลุงปีเตอร์ยังบอกเลยว่าชาติเหล่านี้ยังไม่รู้จักอเมริกา

    เพราะเพิ่งหลุดออกมาจากลัทธิคอมมูนิตย์ อเมริกาหว่านเงินหน่อยเดียวก็ร่วมมือกันเป็นแถว หลังจากสงครามอีรักสิ้น
    สุดได้ไม่นาน อียู ก็มีสมาชิกเพิ่มจากเดิมแค่ 12 ชาติ มาเป็น 27 ชาติในขณะนี้ รวมทั้งชาติที่ยอมให้อเมริกาใช้
    ประเทศเป็นฐานทัพบอมส์อีรักได้ตาสว่างวิ่งแจ้นเข้า อียู กันหมด

    ทำ ให้อเมริกาไม่ชอบใจ อียู นัก กลัวตัวเองจะหมดอำนาจ จึงวางแผนที่มาตั้งฐานจรวดต่อต้านในประเทศ 1 Poland 2 Romania 3 Bulgaria 4 Hungary แต่ อียู ไม่ยินยอม อเมริกาอ้างว่าเกรงประเทศอิหร่านจะยิงจรวดมายังฐานทัพตนที่ตั้งอยู่ในยุโรป จึงต้องมีใว้ป้องกัน

    ข้ออ้างง่ายๆของชาติมหาอำนาจยังไม่สำเร็จเพราะ ประชาชนในยุโรปไม่เห็นด้วย ที่จะขนเอาของอันตรายมาใว้ในยุโรป และด่าชาติมหาอำนาจอย่างเจ็บแสบว่าคิดอยู่อย่างอย่างเดียวคือ สงคราม สงคราม ฆ่าคนที่ไม่มีความผิดตาย สิ่งดีๆไม่เคยคิดทำ ไม่พอใจชาติใหนส่งกำลังทหารไปทิ้งระเบิด

    เปิดศึกทำสงครามสร้างสัตรู ไปทั่วโลก แล้วก็ไม่พ้นทิ้งอุจาระให้ชาติในยุโรปไปเก็บกวาด หากฟังคนชาติในยุโรปด่าอเมริกาแล้วแสบใส้ ทุกอย่างชาติมหาอำนาจเป็นผู้เริ่มก่อน

    ชาวมุสลิมจึงได้เกลียด อเมริกาสุดๆ เพราะเหตุใดคนมุสลิมจึงเกลียดอเมริกามากมายขนาดนี้ ก็เพราะยิวอเมริกันอิสราเอล รังแกชาวมุสลิมอย่างป่าเถื่อนทำกับชาวปาเลสไตล์ใว้มากมายนั่นเอง


    ปล.ไปก็อบเค้ามาอีกเช่นเคย แต่ไม่ขอลงไว้ ณ ที่นี้เหตุผลตามนั้น
    ปล2. ผมอยากให้ทุกท่าน หันมาสนใจ สถานการณ์โลกมากขึ้นนะครับ แบ่งเวลาจากเล่นเกมนิดนึงก็ยังดี ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับต่างประเทศเยอะๆครับ มีประโยชน์อย่างแน่นอนครับ
    ปล3. ผมเรียนเศรษฐศาตร์ มีใครสนใจจะไปต่อด้านนี้ถามได้นะ

  15. รายชื่อสมาชิกจำนวน 5 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  16. #10
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    74
    กล่าวขอบคุณ
    18
    ได้รับคำขอบคุณ: 16
    ผมว่าปิดกระทู้ดีกว่า เดียวจะด่าม่า

  17. #11
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    ที่อยู่
    Udonthani
    กระทู้
    369
    กล่าวขอบคุณ
    50
    ได้รับคำขอบคุณ: 41
    ประชาชนที่ USA ส่วนมากมีเเต่คนนิสัยดีนะครับ คนที่เขาอยู่ที่นั่น (คนไทย) เขาเล่าให้ฟัง ถ้างั้นเขาจะอยู่อย่างมีความสุขหลอครับ เเต่ทว่า ผมไม่ได้พูดถึงเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นนะ >< มันน่าสลดใจยิ่งนัก ที่ได้ยินว่า ประธานาทิบดี วางเเผน ฆ่า ประชาชน ต้องมีผู้เสียสละถึงเพียงนี้ (น่าสนใจอยากจะหาความรู้เรื่องนี้ละสิ อิอิ)

  18. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  19. #12
    เกิดจากความพยายาม
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ฺBKK,LATYAO
    กระทู้
    481
    กล่าวขอบคุณ
    1,014
    ได้รับคำขอบคุณ: 442
    แล้วไทยมีส่วนอะไรไหมครับเห็นว่าไทยอะไร กับ อเมริกา

    ป.ล.ผมไม่รู้นะได้ยินมา

  20. #13
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,440
    กล่าวขอบคุณ
    5
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,811
    ผมไม่มีเจตนาจะดราม่านะครับ ที่เอามาให้ดูนี่ความรู้ทั้งนั้นเลยนะ รับฟังเอาไว้ให้รู้พอเป็นวิทยาธารนะครับ ไม่จำเป็นต้องเชื่อทั้งหมด แต่เพื่อให้รู้เฉยๆ

  21. #14
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    อยู่ทุกที่
    กระทู้
    299
    กล่าวขอบคุณ
    4
    ได้รับคำขอบคุณ: 509
    เรื่องของเรื่อง มันใช่เรื่องของพวกเราไม๊อ่ะ ทำไมต้องอะไรขนาดนี้ ^^

  22. #15
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,440
    กล่าวขอบคุณ
    5
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,811
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ neverload อ่านกระทู้
    เรื่องของเรื่อง มันใช่เรื่องของพวกเราไม๊อ่ะ ทำไมต้องอะไรขนาดนี้ ^^
    จะไม่ว่าไม่ใช่เรื่องของเราซะทีเดียวก็ไม่ถูกครับ เดี่ยวนี้อะไรๆทั้งโลกก็ขึ้นอยู่กับ อเมริกาซะเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเราจะมัวปิดหูปิดตา เหมือนไม่ยอมรับฟังเรื่องราวต่างๆจากภายนอก เอาแต่ดูเหตุการต่างๆในประเทศตัวเอง แล้วประเทศชาติจะพัฒนาได้อย่างไร
    เคยมีสุภาษิตว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง

    อยากให้ทุกคนสนใจเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐศาตร์จริงๆนะ มันสำคัญมากๆในอนาคต ยิ่งใครคิดว่าจะทำธุรกิจเป็นของตัวเองแล้ว มันช่วยได้มากเลยล่ะครับ

  23. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  24. #16
    Apple` Addict 
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Home ^^
    กระทู้
    526
    กล่าวขอบคุณ
    1,073
    ได้รับคำขอบคุณ: 485
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ neverload อ่านกระทู้
    เรื่องของเรื่อง มันใช่เรื่องของพวกเราไม๊อ่ะ ทำไมต้องอะไรขนาดนี้ ^^
    ก็มันเกี่ยวกับเราโดยตรงอยู่แล้วครับ 100 % ด้วยมั้ง
    ประเทศที่อยู่บนโลกมันคิดจะทำอะไร เราก็ต้องรู้บาง หลับหูหลับตา เกิดอะไรไม่ได้ขึ้นมา ก็ซวยไปตามๆกัน อ้างไม่รู้ก็สายไปแล้ว


    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ neverload อ่านกระทู้
    100 % เลยทีัเดียว

    ก็ไม่แน่ครับ อนาคตของชาติที่ร่วมโลก ต้องระแวดระวังเอาไว้
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย worametza : 17th September 2011 เมื่อ 00:09

  25. #17
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,542
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,657
    ย้อนกลับไปยุคสงครามเก่าๆเรื่อยมา อเมริกาทำสงครามกับพวกที่เป็นคอมมิวนิตนี่หน่า... เราต้องอยู่ข้างอเมริกาสิ ถึงจะหวังผลกำไรก็แล้วแต่ มันก็ยังดีกว่าการเอาเปรียบประชาชนในชาติ..เดียวกัน

    มันต้องเป็นประชาธิปไตย!! หากพูดถึง ประเทศที่เป็นคอมมิวนิต์ กับประชาธิปไตย ประเทศไหนคุณอยากเข้ามากกว่ากัน อิอิ..
    "ชอบหันหลังกลับทุกครั้ง.. เมื่อตอนเวลาหันหลังหนีศัตรู"

  26. #18
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,440
    กล่าวขอบคุณ
    5
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,811
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ DkTaP82 อ่านกระทู้
    ย้อนกลับไปยุคสงครามเก่าๆเรื่อยมา อเมริกาทำสงครามกับพวกที่เป็นคอมมิวนิตนี่หน่า... เราต้องอยู่ข้างอเมริกาสิ ถึงจะหวังผลกำไรก็แล้วแต่ มันก็ยังดีกว่าการเอาเปรียบประชาชนในชาติ..เดียวกัน

    มันต้องเป็นประชาธิปไตย!! หากพูดถึง ประเทศที่เป็นคอมมิวนิต์ กับประชาธิปไตย ประเทศไหนคุณอยากเข้ามากกว่ากัน อิอิ..
    ไม่ว่าแบบไหนก็ไม่ดีทั้งนั้นละผมว่า ทำสงครามกันก็มีแต่เสียกับเสีย

    อเมริกานี่ตัวดีเลยนะครับ(ไม่ได้บ่งบอกว่าหมายถึงประชาชนชาวอเมริกันนะ แต่หมายถึง ระบอบ อเมริกัน) ก็ตามที่พูดเลยครับ เหมือนจะเป็นพระเอก แต่เอาเข้าจิงๆแล้ว ตัวร้ายชัดๆเลย ยิ่งตอนนี้ จีนกำลังมาแรงแบบนี้ อเมริกาเจอพิษเศรษฐกิจแบบนี้ เค้าจะทำอะไรรึปล่าว
    แล้วรู้หรือไม่ว่า ตอนนี้อเมริกา มีหัวรบนิวเคลียมากกว่า หมื่นหัว แถมกระจายไปในที่ต่างๆเกือบจะทั่วทั้งโลกแล้ว ผมสมมุติเหตุการเล่นๆนะ
    สมมุตว่า อเมริกา ค้นพบเทคโนโลยีใหม่ สามารถไปสร้างอนาจักรในอวกาศได้ แล้วเค้าจะให้คนพวกไหนไปก่อน แล้วถ้าคนของเขาไปหมดแ้ล้ว เขาจะทำอะไรกับหัวรบนิวเคลียที่เหลืออยู่ดีล่ะ จะัโอนไปให้ เอเชีย หรือ มุสลิมดี ไม่น่าจะใช่ หรืออาจจะลองทดสอบดี ว่ามันจะ******วายวอดรึปล่าว

    ลองเอาไปคิดเล่นๆดูนะครับ เรื่องแบบนี้ มันอาจเกิดขึ้นได้

  27. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  28. #19
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    อยู่ทุกที่
    กระทู้
    299
    กล่าวขอบคุณ
    4
    ได้รับคำขอบคุณ: 509
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ worametza อ่านกระทู้
    ก็มันเกี่ยวกับเราโดยตรงอยู่แล้วครับ 100 % ด้วยมั้ง
    ประเทศที่อยู่บนโลกมันคิดจะทำอะไร เราก็ต้องรู้บาง หลับหูหลับตา เกิดอะไรไม่ได้ขึ้นมา ก็ซวยไปตามๆกัน อ้างไม่รู้ก็สายไปแล้ว

    100 % เลยทีัเดียว

  29. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  30. #20
    MOTHER FUCKER
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    เจียงฮาย
    กระทู้
    1,735
    กล่าวขอบคุณ
    1,699
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,650
    ตอนนี้ อเมริกา ระแวง เวียดนาม จีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ อิหร่าน อินเดีย ประมาณนี้แหละ ถ้าเกิดมันหาเรื่องเข้าตัว แบบสุ่มสี่สุ่มห้า มีหวัง world war 3 ได้เกิดขึ้นแน่
    SLIPKNOT FAN CLUB

  31. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  32. #21
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    อยู่ทุกที่
    กระทู้
    299
    กล่าวขอบคุณ
    4
    ได้รับคำขอบคุณ: 509
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ worametza อ่านกระทู้
    ก็ไม่แน่ครับ อนาคตของชาติที่ร่วมโลก ต้องระแวดระวังเอาไว้
    แหมะ ชาติร่วมโลกกันเลยทีเดียวนะครับ

  33. #22
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    57
    กล่าวขอบคุณ
    669
    ได้รับคำขอบคุณ: 19
    ขอแจมมั่วๆหน่อย เท่าที่ผมรู้มา อเมริกาพยายามผูกมิตรกับไทยให้แน้นแฟ้น เพราะภาคใต้ ของเรามีน้ำมัน ซึ่งยังไม่มีใครพบ แต่รัฐบาลเก่่าที่คุณก็รุ้ว่าใครหนีที่หนีออกประเทศไป ได้ทำสัญญา กับ จอช บุช ไว้เรื่องน้ำมันในภาคใต้ของเรา ห้าๆ เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้นะคับว่าจิงปล่าว แต่ผมได้ยินข้าราชการเค้าเล่าให้ฟังมา งุงิ

    ส่วนพวกยิว ทำร้ายชาวมุสลิม มาตั้งแต่สมัยโบราณนู้นละคับมะก่อนประเทศปาเรสไตร์ เป็นของอิสลาม แต่ตอนนี้ประเทศปาเรสไตร์แถบจะไม่มีแล้วถ้าไปดูในแผนที่ดีๆ เพราะถูกอิสราเอลที่เป็นยิวที่อเมริกา สนับสนุน ซึ่งเมื่อก่อนสมัยโบราณ เป็นแค่คนเร่ร่อนมายึดเอาไป ถ้าลองศึกษาเรื่องอิสลามดีๆ ละพวกคุณจะรู้ว่ายิว เลวขนาดไหนทำอะไรยังไงกะอิสลามไว้บ้าง

  34. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  35. #23
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    43
    กล่าวขอบคุณ
    51
    ได้รับคำขอบคุณ: 5
    ผมไม่รู้..??

  36. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:



 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top